Tag ตกแต่งบ้าน

บ้านต้นไม้

บ้านต้นไม้

บ้านต้นไม้

บ้านต้นไม้

บ้านต้นไม้ หลาย ๆ ประเทศที่กำลังพัฒนา มักประสบปัญหาการขยายตัวของเมืองที่กลืนธรรมชาติให้หายไป เมืองใหญ่ๆ ในเวียดนามก็กำลังสูญเสียพื้นที่สีเขียวและภูมิทัศน์เดิม ๆ กลายเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมและมลพิษทางอากาศที่รุนแรงในเขตเมือง

ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่คนรุ่นใหม่ของเวียดนามขาดการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากงานนี้สถาปนิก VTN Architects (Vo Thi Nghia Architects) จึงพัฒนาโครงการบ้าน “House for Trees” เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวภายในเขตความหนาแน่นประชากรสูง ล่าสุดในซีรีส์ Stacked Planters House มุ่งมั่นที่จะนำความเขียวกลับไปในเมืองและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้มากขึ้นครับ พูลวิลล่าจันทบุรี ติดทะเล

Planters House ให้บ้านเป็นกระถาง ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา

บ้านกับธรรมชาติยิ่งใกล้ชิดยิ่งดีต่อผู้อยู่อาศัย บ้านพื้นที่แคบ ๆ ในเมืองใครว่าจะอยู่ร่วมกับต้นไม้ไม่ได้ ในเมื่อไม่มีพื้นที่ราบเหลือด้านข้าง ก็นำต้นไม้มาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเสียเลย ตัวอย่างเช่น บ้านหลังนี้ในนครโฮจิมินห์ เป็นอาคารสูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม ออกแบบมาสำหรับครอบครัวต่างเจเนอเรชั่นสามรุ่น

สถาปนิกแยกฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่แบบส่วนตัวและส่วนรวม พื้นที่ส่วนตัวจะอยู่ในกล่องคอนกรีตที่ดูเหมือนวางซ้อนกันไปมา ระหว่างกล่องคอนกรีตจะมีช่องว่างทำระเบียงมีสวนเล็ก ๆ เจาะเพดานเปิดสู่ท้องฟ้าให้ต้นไม้เติบโตได้ พื้นที่กึ่งนอกอาคารนี้จะติดกับห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหารที่เป็นศูนย์กลางรวมสมาชิกในบ้านให้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

บ้านต้นไม้

จากภาพการจำลองอาคารจะเห็นได้ว่า บางส่วนของอาคารสร้างครอบต้นไม้เดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วโดยที่ไม่ได้ทำการตัดทิ้ง ต้นไม้บางส่วนก็จัดพื้นที่ปลูกใหม่ในตัวบ้าน โดยเจาะช่องเพดานรับและเว้นช่วงจังหวะบางจุดของอาคารให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้สามารถเติบโตได้ เมื่ออยู่ในอาคารจะเห็นว่าบ้านมีต้นไม้อยู่ใกล้ชิดรอบ ๆ และมีพื้นที่ว่างให้บ้านได้หายใจ ต้นไม้ยังช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศ ฝุ่น ควัน ทำให้สภาพอากาศในอาคารดีขึ้น พร้อม ๆ กับให้ร่มเงากับตัวบ้านได้ด้วย

“House for Trees” ให้ความสำคัญกับการนำวัสดุในท้องถิ่นและวัสดุธรรมชาติมาใช้ สิ่งที่ทำให้โครงการนี้ดูพิเศษขึ้นนอกจากปูนเปลือย หิน ต้นไม้ แล้วยังมี “ผนังหินขัด” ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมในช่วงทศวรรษที่ 80 แต่ก็ถูกลืมไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาห้องนั่งเล่นตกแต่งเรียบง่าย เลือกใช้โทนสีดำ-เทา ขาว

ให้เกิดสมดุลทั้งวัสดุโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ วัสดุหลักเป็นคอนกรีต เพิ่มความอบอุ่นลดทอนความแข็งกระด้างของปูนเปลือยด้วยผนังไม้ในบางจุด ภาพรวมเน้นเรื่องความปลอดโปร่งโล่งสะอาดตา การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอก (Indoor-Outdoor) ด้วยการเปิดผนังบ้านได้กว้างในทุกด้าน เพื่อให้การอยู่อาศัยได้รับทั้งบรรยากาศของธรรมชาติ และช่วยเรื่องการระบายความร้อน ด้านข้างอาคารเป็นสระน้ำ ในห้องนั่งเล่นจึงรับไอเย็นของน้ำเข้าไปเพิ่มความสบายได้อีก

พื้นที่นั่งเล่นเป็นห้องกระจกติดระเบียง ชมวิวเมือง รับความสดชื่นจากต้นไม้การสร้างพื้นที่สีเขียวในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนแนวตั้ง สวนบนดาดฟ้า การปลูกพืชผักในบ้าน หรือการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านปลูกต้นไม้  ล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการทำให้บ้านน่าอยู่และมีชีวิตชีวามากขึ้น

      เชื่อเหลือเกินว่าตอนเด็กๆ คงมีใครหลายคนฝันอยากมีบ้านอยู่บนต้นไม้ ตามเทพนิยายหรือการ์ตูนที่ได้ดู และสุดท้ายมันก็กลายเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ ด้วยความคิดที่ว่าบ้านแบบนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เดี๋ยวนี้เราสามารถสร้างบ้านบนต้นไม้ได้แบบเทพนิยายเลยทีเดียว นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียเด็ดของการอยู่อาศัย ที่น่าจะถูกใจคนพูดถึง ข้อสรุปสิ่งควรรู้ก่อนสร้างบ้านต้นไม้  สำหรับใครที่อยากรู้ว่าจะมีบ้านต้นไม้สักหลังต้องทำอย่างไร เรามีวิธีดังนี้ครับ

1. เลือกต้นไม้ที่เหมาะสม

      การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างแรกที่ต้องคิดถึง ควรเป็นต้นที่มีความทนทาน เติบโตเต็มที่ ไร้โรค มีรากแก้วที่แข็งแรง นอกจากนี้ต้องไม่มีขน หนาม ยาง หรือผลที่เป็นที่อยู่อาศัยของแมลง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน รวมทั้งกิ่งไม่เปราะหรือหักง่าย ไม่ควรเลือกต้นไม้ที่แก่หรืออ่อนเกินไป

และไม่ควรนำต้นไม้ที่ล้อมจากที่อื่นมาปลูกมาทำบ้านต้นไม้ด้วย เพราะรากจะยึดติดกับดินได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากเป็นไปได้ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้เข้ามาตรวจสภาพต้นไม้นั้นก่อนก็จะดีที่สุดครับต้นไม้ที่จะใช้ต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร (วัดจากตำแหน่งของลำต้นที่ต้องการจะสร้างบ้านต้นไม้) ขนาดกำลังดีของบ้านต้นไม้คือ 2.40 x 2.40 เมตร

บ้านต้นไม้

2. ต้นไม้อะไรไม่ควรสร้างบ้านต้นไม้

      สนอินเดีย ยางอินเดีย รักหลวง ต้นไม้เหล่านี้มียาง เปลือกของลำต้นก็มีพิษระคายเคืองผิวหนังคน ซึ่งหากยางเข้าตาก็อาจทำให้ตาบอดได้ นอกจากไม่ควรนำมาสร้างบ้านต้นไม้แล้ว ต้นไม้เหล่านี้ก็ไม่ควรอยู่ภายในพื้นที่ของบ้านด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน

3. บ้านต้นไม้ต้องขออนุญาตก่อสร้าง หากต้องการขอติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้า

      หากต้องการขอติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้าภายในบ้านต้นไม้ การขออนุญาตก่อสร้างกับพื้นที่เขตที่สร้างเป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่หากไม่ต้องการใช้น้ำและไฟฟ้า ก็จะเป็นเหมือนบ้านหลังเล็กที่เอาไว้ใช้พักผ่อนกับธรรมชาติ  จึงไม่ต้องขออนุญาต  แต่สิ่งที่ควรพิจารณาเองคือบ้านต้นไม้นั้นไม่ควรกินพื้นที่ของบ้านอื่น และการสร้างนั้นไม่ได้ทำเพื่อการพาณิชย์ครับ

4. แจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบก่อน 

      หากบ้านต้นไม้นั้นอยู่ใกล้เขตรั้วที่ติดกับเพื่อนบ้าน สิ่งที่ควรทำก่อนการออกแบบและก่อสร้างคือการแจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบ นอกจากจะแจ้งเชิงขออนุญาตกับเพื่อนบ้านแล้ว เราควรจะแจ้งกำหนดการและระยะเวลาที่จะสร้างด้วย เป็นการเคารพและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป อันนี้ใช้ในกรณีที่ต้นไม้ที่เราจะสร้างมีพื้นที่ติดกับพื้นที่ของเพื่อนบ้านเท่านั้นนะครับ ถ้าไม่ติดก็สร้างได้เลย

5. คิดถึงโครงสร้างก่อน 

     สิ่งสำคัญของบ้านต้นไม้คือโครงสร้างที่แข็งแรง เมื่อเลือกต้นไม้ที่มีความแข็งแรงได้แล้ว ลำดับต่อมาคือการออกแบบโครงสร้างที่จะรับตัวบ้าน ซึ่งหลักๆมี 3 รูปแบบ คือ

      – แบบแขวนจากกิ่งกานลำต้นด้านบน แบบนี้ต้องมีกิ่งก้านด้านบนที่แข็งแรง ไม่เหมาะกับบ้านต้นไม้ที่ใช้งานบ่อยและรองรับน้ำหนักมากๆ  ในลักษณะนี้อาจะเลือกเป็นเฟอร์ฯที่ใช้ตกแต่งนอกสถานที่ ก็ดูเก๋ และไม่ยุ่งยากดีนะครับ

      – แบบค้ำยันจากลำต้น แบบนี้แข็งแรงและมีความซับซ้อนในการก่อสร้างน้อยที่สุด สามารถเสริมตัวค้ำยันได้มากเท่าที่ต้องการ แต่ก็สร้างความเสียหายแก่ต้นไม้มากเช่นกัน 

      – แบบตั้งเสาขึ้นมาจากพื้น วิธีนี้จะยึดติดกับต้นไม้น้อยที่สุด เพราะมีเสาที่ตั้งขึ้นไปจากพื้นรองรับน้ำหนักแทน สุดท้ายแล้วเราจะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของต้นไม้นั้นๆว่าเหมาะสมกับโครงสร้างแบบใดที่สุด

บ้านต้นไม้

6. ออกแบบบันไดขึ้นให้เหมาะสม 

      การจะขึ้นไปบนบ้านต้นไม้นั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นบันไดที่เดินขึ้นแบบปกติ หรือจะเป็นบันไดลิงที่นำมาพาดเฉพาะตอนที่มีการใช้งานก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าเป็นใคร ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงมากแค่ไหน 

7. ความปลอดภัยสำคัญที่สุด 

      บ้านต้นไม้ต้องอยู่บนต้นไม้ในตำแหน่งที่ไม่สูงมากนัก มีราวกันตกที่แข็งแรง หากผู้ใช้งานเป็นเด็ก ความสูงจากพื้นดินจนถึงพื้นบ้านต้นไม้ไม่ควรเกิน 180 เซนติเมตร ราวกันตกรอบบ้านและบันไดสูงไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร หากเป็นไปได้พื้นด้านล่างควรโรยทราย หรือทำบ่อทราย เผื่อเวลาที่พลัดตกลงมาจะได้ไม่บาดเจ็บมาก

8. เริ่มด้วยโครงสร้างพื้น 

      เมื่อเริ่มสร้างบ้านต้นไม้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือพื้นของบ้าน และควรสร้างอย่างใจเย็น เพราะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของบ้าน ต้องรับน้ำหนักได้ดี แข็งแรง วัสดุพื้นอาจเป็นแผ่นไม้อัดที่ติดตั้งอยู่บนตงไม้เช่นกัน ความห่างของตงประมาณ 40 – 60 เซนติเมตร และเมื่อทำพื้นเสร็จ เราก็สามารถขึ้นไปยืนบนพื้นเพื่อก่อสร้างส่วนต่างๆของบ้านได้อย่างสะดวกอีกด้วย

9. วัสดุที่ใช้ต้องเป็นวัสดุเบา 

      บ้านต้นไม้ต้องการโครงสร้างและวัสดุต่างๆที่มีน้ำหนักเบาที่สุด โครงสร้างที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นโครงสร้างไม้ ผนังของตัวบ้านเป็นไม้อัดหรือแผ่นไม้สังเคราะห์ที่มีความหนาน้อยที่สุด เราอาจตัดวงกบประตูหน้าต่างทิ้ง และใช้แผ่นไม้อัดที่ติดตั้งบานพับเหมือนบานพับตู้เป็นส่วนของประตูและหน้าต่างแทน บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น

10. มีบ้านต้นไม้ต้องดูแลมากกว่าปกติ 

ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแข็งแรง พื้นไม้ โครงสร้าง หรือหลังคา ควรตรวจสอบว่ามีการชำรุดเสียหายจากการไหวตัวของต้นไม้หรือไม่ รวมถึงสัตว์มีพิษต่างๆ

      สำหรับบ้านต้นไม้อาจจะเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่สักหน่อยนะครับ อาจจะเป็นบ้านพักต่างอากาศในต่างจังหวัด หรือถ้าอยู่ในเมืองแต่มีพื้นที่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่านำไปลองทำ ที่นอกจากจะสร้างสีสันให้กับบ้านแล้ว คิดว่าเป็นที่พักผ่อนอีกมุมหนึ่งที่เด็กๆในบ้านจะต้องชอบแน่ๆครับ  คลิ๊กที่นี่ : assetdata.land

บ้านโมเดิร์นติดสวนแนวตั้ง

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น รูปแบบสถาปัตยกรรมที่ถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคน ในช่วงหนึ่งอาจจะดูเชย ดูเก่า ทำให้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างตกยุค แต่อย่างที่เราทราบดีว่าเทรนด์ในการสร้างบ้านสามารถวนกลับมาฮิตใหม่ได้เสมอ เพียงแต่อาจจะถูกนำเสนอในมุมมองใหม่ๆ ตามสายตาของคนในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อ่านเพิ่มเติม : assetdata.land

ซึ่งเรามองมาเป็นสิ่งที่ดี เพราะการผสมผสานระหว่างใหม่กับเก่าที่เดินไปคู่กัน ทำให้สิ่งที่เคยมีในอดีตจะยังคงอยู่ไม่เป็นงานที่ตายไปแล้ว เหมือนเช่นบ้านสไตล์โรงนาในชนบทห่างไกลของประเทศทางซีกโลกตะวันตก ที่ดูต่างจากอาคารหรูหราในเมือง เมื่อนำมาปรับประยุกต์กลับเป็นบ้านที่อบอุ่น น่าอยู่ และดูโมเดิร์นร่วมสมัย

Briarcliff เป็นชื่อโครงการบ้านนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ชนบทขนาด 3.5 เอเคอร์  (ประมาณ 8.8 ไร่) ในย่านประวัติศาสตร์แฟรงคลิน รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา สถาปนิกสร้างความสมดุลระหว่างรูปแบบและด้านหน้าที่เรียบคมสง่างาม กับการตกแต่งภายในที่ดูมีสีสันขี้เล่น เพื่อให้เหมาะสำหรับครอบครัวส่วนตัวที่หลงใหลในดนตรีและโรงละคร โดยการออกแบบของบ้านได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบคลาสสิกของฟาร์มในชนบทของมิชิแกน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลังคาทรงจั่วที่ถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคน ให้ออกมาทันสมัยแบบบ้านนอร์ดิกที่กำลังฮิตบ้านต้นไม้

Modern Barn จากโรงนาในชนบทมาสู่บ้านโมเดิร์น

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น

รูปแบบที่คุ้นเคยเหล่านี้เชื่อมโยงบ้านเข้ากับบริบททางประวัติศาสตร์ แต่ได้รับการถ่ายทอดด้วยเทคนิคการก่อสร้างและวัสดุสมัยใหม่และรายละเอียดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ด้านนอกใช้ไม้ซีดาร์ลายไม้แนวตั้ง หลังคาแต่ละหลังเป็นเมทัลชีทสีดำ สีที่แตกต่างและเส้นที่คมชัดเน้นให้เห็นความสูงและความสว่าง ในส่วนด้านบ้านที่ต่ำและกว้างถูกหุ้มด้วยแผงไฟเบอร์ซีเมนต์ความหนาแน่นสูง การเรียงตัวอาคารสลับแนวตั้งกับแนวนอน ผลรวมที่ได้นอกจากช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็สนุกกับการเดินข้ามจากอาคารหลังหนึ่งไปอีกหลังที่พักป่าตอง

อาคารแผ่นไม้ซีดาร์มีส่วนทำให้บ้านดูผสานเข้ากับภูมิทัศน์ หลังคาแบนเหนือโถงทางเดินกระจกที่เชื่อมถึงกันยังปูด้วยหญ้าพื้นเมืองด้วย ทุกครั้งที่เดินผ่านจึงไม่รู้สึกร้อน หากสังเกตจากภาพถ่าย Bird eye’s view จะเห็นว่าการจัดตำแหน่งบ้านจะพยายามรบกวนต้นไม้น้อยที่สุด โดยเฉพาะต้น American Elm อายุกว่า 100ปี และต้น Climbing Hydrangea แต่ละโซนได้รับการจัดวางอย่างระมัดระวังโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ลมที่พัดแรง มุมแสงแดดตามฤดูกาล และความสมดุลของความเป็นส่วนตัวและมุมมอง เพื่อการปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องระหว่างรูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัย การตกแต่งภายในที่อบอุ่น และธรรมชาติโดยรอบ

ฟังก์ชั่นของบ้านถูกแยกออกเป็นสี่อาคารที่แตกต่างกัน เพื่อให้แยกระหว่างโซนส่วนตัวและส่วนรวมอย่างชัดเจน ได้แก่ 1) ห้องชุดห้องนอนหลัก 2) พื้นที่การใช้ชีวิตและความบันเทิง 3) พื้นที่ครอบครัวส่วนตัว และ 4) โรงจอดรถ โดยพาวิลเลียนที่ยาวที่สุด (นั่งเล่นและเอนเตอร์เทนนิ่ง) จะอยู่ตรงกลางทอดยาวจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านของที่พักแบบไม่ขาดตอน โดยมีกระจกบานใหญ่ที่หันไปทางพื้นที่ชุ่มน้ำด้านหลัง

ในอาคารใช้งานสาธารณะตรงกลาง เป็นเหมือนศูนย์กลางที่ทุกคนจะเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกัน ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนห้องโถงยาวหลังคาจั่วสูงตีฝ้าเพดานตามแนวหลังคา โชว์เส้นสายของเหล็กสีดำตกแต่งที่ทำให้รู้สึกถึงพื้นที่จากพื้นถึงเพดานที่ชัดเจนขึ้น ปลายด้านหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่น โต๊ะทานข้าว มีเตาไฟที่หุ้มด้วยไม้ซีดาร์ย้อมสีน้ำตาลเข้มและเหล็กทำสีดำ และตรงข้ามกันคือห้องครัวที่มีตกแต่งด้วยไม้วอลนัท เคาน์เตอร์สแตนเลส ผนังกันเปื้อนลายหิน ข้างๆ มีแผงผนังทายูรีเทนสีเขียวมรกต

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น

ด้านหนึ่งของตัวบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจากถนนจะทำผนังทึบมีช่องแสงแนวนอนในมุมสูง เน้นเพื่อรับแสงไม่ได้เน้นเปิดมุมมอง ส่วนของผนังยังสร้างประโยชน์ได้ด้วยการบิลท์ม้านั่งและชั้นวางเป็นการใช้ประโยชน์จากส่วนประกอบของบ้านได้สูงสุด ในอีกด้านของบ้านที่เชื่อมต่อกับสวน สระว่ายน้ำ จะเป็นประตูกระจกตลอดทั้งแนว เชื่อมต่อพื้นที่ชีวิตภายนอกภายในให้เหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาของบุคคลภายนอก

จากส่วนนี้เราจะเห็นว่าภายในบ้านมีการใช้ทั้งชุดสีที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติ อย่างสีของไม้ต่างชนิด สีของผนัง แต่ก็จะมีส่วนผสมของสีสันเข้ามาเพิ่มความมีชีวิตชีวา เช่น ผ้าม่านโทนสีนำเงินและสีเขียวเหลือบสลับสีอ่อน พรมปูพื้นสีขาวดำ ผนังตกแต่งกรอบรูป Abstract Art ที่ทำให้รู้สึกว่าบ้านสไตล์โรงนาไม่ได้ดูจืดชืดหรือต้องตกแต่งด้วยความรู้สึกแบบชุมชนเกษตรกรรมเท่านั้น

เติมความน่าสนุกขึ้นอีกขั้นด้วยการใช้พรมสีรุ้งผืนใหญ่บนพื้นข้างหน้าต่าง และตรงบันไดขึ้นสู่ชั้นสอง ในห้องน้ำใหญ่ยังเต็มไปด้วยกระเบื้องรูปห้าเหลี่ยมโทนสีเขียวใบไม้ทั้งพื้นและผนัง ขณะที่กำลังอาบน้ำจะรู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่มรอบตัว

แม้จะตกแต่งบ้านด้วยความสนุกของสีสัน แต่ถ้ามากเกินไปจะรู้สึกไม่สบายตา สถาปนิกจึงมีจังหวะเบรคความรู้สึกอยู่ด้วย เช่น ในมุมนั่งเล่นนอนเล่นพักผ่อนริมหน้าต่างที่ใช้ชุดสีกลางๆ อ่อน ๆ ให้เหมาะกับบรรยากาศของความผ่อนคลาย และห้องน้ำโทนสีขาวตัดเส้นสีดำ สร้างสมดุลของบ้านที่มีครบทุกอารมณ์ไม่หนักเกินไป ไม่เบาเกินไป

บ้านโรงนา รูปแบบใหม่ของบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์น

Modern Barn

สาเหตุที่ทางฝั่งต่างประเทศนิยมซื้อโรงนาเก่ามารีโนเวทใหม่ให้เป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์น เนื่องจากง่ายต่อการตกแต่งอย่างมาก แถมยังใช้งบประมาณค่อนข้างน้อย ที่สำคัญด้วยเอกลักษณ์ที่มีเพดานสูง พร้อมเปิดโล่งให้เห็นคานไม้ คล้ายคลึงกับสไตล์ Loft นั้น ทำให้เพิ่มความหรูหราให้กับบ้าน

ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วแบบบ้านสไตล์ดังกล่าว ผู้อยู่อาศัยมักเลือกของตกแต่งที่ทำจากไม้ และมีกลิ่นอายโมเดิร์น เพื่อให้เข้ากับตัวบ้าน เรียกได้ว่าเป็นไอเดียสุดว้าวเลยทีเดียว

ข้อดี-ข้อเสียของการนำโรงนามาดัดแปลงเป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์น

เนื่องจากการนำโรงนามาดัดแปลงเป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์นนั้นจะมีการผสมผสานเอกลักษณ์ดั้งเดิมกับโมเดิร์นเข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อคิดที่จะปลูกบ้านดังกล่าว จึงควรรู้ถึงข้อดี ข้อเสีย เพื่อทำความเข้าใจกับบ้าน จะได้ดูแลรักษาอย่างถูกต้อง

Modern Barn

ข้อดีของการนำโรงนามาดัดแปลงเป็นแบบบ้านโมเดิร์น

1. เป็นบ้านที่ทำจากวัสดุไม้ จึงทำให้ตัวบ้านเย็น มีความแข็งแรง

2. หลังคาทรงจั่วทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น ถ่ายเทอากาศได้ดี

3. ผนังอิฐ เฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมถึงคานเปิดโล่ง ทำให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสถึงความอบอุ่นในบ้าน

ข้อเสียของการนำโรงนามาดัดแปลงเป็นแบบบ้านโมเดิร์น

1. เมื่อวัสดุทั้งหมดเป็นไม้ ดังนั้นจึงควรฉีดปลวก และป้องกันแมลงมากเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้ไม้ผุ สึกกร่อนได้ และนั่นจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ตามมา

2. เมื่อทำการต่อเติมเพิ่ม จะเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นวัสดุไม้ ซึ่งมีราคาแพงกว่าปกติ

3. ไม่เหมาะกับพื้นที่ราบลุ่ม เสี่ยงต่อการน้ำท่วมอย่างมาก

เรียกได้ว่าเป็นไอเดียแบบบ้านใหม่ ที่ถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังต้องการซื้อบ้านหรือสร้างบ้าน และมีเรื่องดีไซน์เป็นตัวประกอบหลักของการตัดสินใจ แม้เมืองไทยจะพบเห็นน้อย แต่อาจจะมีบ้างตามโซนต่างจังหวัด แต่ถึงกระนั้นก็สามารถนำแนวคิดนี้ไปปรับประยุกต์ใช้ในการสร้างบ้านในฝันได้ รับรองว่าเก๋ไก๋ ไม่เหมือนใครแน่นอน

Pool Villa เชียงใหม่

Pool Villa เชียงใหม่

Pool Villa เชียงใหม่

Pool Villa เชียงใหม่

Pool Villa เชียงใหม่ หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาที่พักเชียงรายที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว หรือพูลวิลล่าเป็นหลังในเชียงราย โพสต์นี้นอนได้ดีได้ทำการคัดเลือก ที่พักเชียงรายมีสระส่วนตัว พูลวิลล่าเป็นหลัง ราคาถูก! มาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ แต่ละที่มีความเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ น่าแวะไปนอนพักผ่อนมาก ๆ จะมีที่ไหนบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่าค่ะที่พักอโศก ราคาถูก

1. โรงแรมดูวอลล์

โรงแรมดูวอลล์

โรงแรมดูวอลล์ (Doowall Hotel) ที่พักเชียงรายมีสระส่วนตัวแบบโรงแรมระดับ 3 ดาว ราคาเริ่มต้นแค่ 1,815 บาท! โรงแรมสไตล์มินิมอลตั้งอยู่ในย่านตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว ทำเลไม่ไกลจากตัวเมือง ห่างจากวัดร่องขุ่นเพียง 1.4 กม. ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายที่ บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยวิวทุ่งนาอันเขียวขจี

ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติสุดเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับมาพักผ่อน ให้บริการห้องพัก ห้องสำหรับครอบครัว และคอตเทจกว่า 14 ห้อง ตกแต่งสไตล์ลอฟต์ โทนสีเทา-ขาว ให้ความรู้สึกสบายตา น่าพักผ่อน มีห้องดีลักซ์ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดเล็กที่ระเบียง ขนาดห้องกว้างขวาง แถมยังมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวภายในห้องอีกด้วย อีกทั้งยังมีบริการ Wi-Fi ฟรี ห้องอาหาร บริการอาหารเช้าฟรี บาร์ ร้านกาแฟ สระว่ายน้ำระบบเกลือกลางแจ้ง และที่จอดรถที่พักหาดราไวย์ ภูเก็ต 

ราคา : เริ่มต้น 1,815 บาท/คืน
ที่อยู่ : 180 หมู่ 1 ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย 57250
เบอร์โทร : 080 289 4544

2. ภูฟ้า วารี เชียงราย รีสอร์ท

ภูฟ้า วารี เชียงราย รีสอร์ท

ภูฟ้า วารี เชียงราย รีสอร์ท (Phufa Waree Chiangrai Resort) พูลวิลล่าเชียงรายมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบรีสอร์ทระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่ในทำเลการค้าในย่านแม่ฟ้าหลวง ติดกับถนนพหลโยธิน ห่างจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเพียง 2 กม. ใกล้กับตลาดฟ้าไทย แหล่งของกินเยอะมาก ภายในที่พักบรรยากาศเงียบสงบ

ให้บริการห้องพักทั้งแบบในอาคารและพูลวิลล่าเป็นหลังทั้งหมด 70 ห้อง ออกแบบสไตล์ล้านนาร่วมสมัยสุดเรียบหรู มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ส่วนห้องดีลักซ์พูลวิลล่าหรือพูลวิลล่า 3 ห้องนอน จะแยกเป็นหลังแบบส่วนตัว ตกแต่งด้วยงานไม้เป็นหลัก มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดกว้างขวาง พร้อมอ่างจากุซซี่ในห้องน้ำ รวมทั้งบริการอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Wi-Fi ฟรี ห้องอาหาร บริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า บาร์ อุปกรณ์ปิ้งย่าง สระว่ายน้ำกลางแจ้ง บริการนวด บริการรถรับส่ง และที่จอดรถ

ราคา : เริ่มต้น 1,249 บาท/คืน
ที่อยู่ : 888 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100
เบอร์โทร : 053 912 333

3. เอ-สตาร์ ภูแล วัลเลย์ รีสอร์ต เชียงราย

เอ-สตาร์ ภูแล วัลเลย์ รีสอร์ต เชียงราย

เอ-สตาร์ ภูแล วัลเลย์ รีสอร์ต เชียงราย (A-Star Phulare Valley Resort) ที่พักเชียงรายมีสระส่วนตัวสไตล์รีสอร์ทระดับ 4 ดาว รีสอร์ทสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในย่านตำบลท่าสุด ทำเลอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ห่างจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเพียง 2 กม. บรรยากาศเงียบสงบ พื้นที่ของรีสอร์ทกว้างขว้าง ล้อมรอบด้วยวิวทิวเขาภูแลและต้นไม้น้อยใหญ่สุดเขียวขจี มองเห็นวิวทะเลหมอกยามเช้าด้วย เหมาะสำหรับมาพักผ่อนกับครอบครัว

คู่รักหรือกลุ่มเพื่อน ให้บริการห้องพักและวิลล่ากว่า 92 หลัง ตกแต่งสไตล์ร่วมสมัยผสมผสานสไตล์บาหลี มีระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวภูเขาเกือบทุกห้อง ส่วนห้องพูลวิลล่า / วิลล่าไทย / พูลวิลล่าแบบ 4 ห้องนอน จะมีรั้วกั้นแบบส่วนตัว พร้อมห้องนั่งเล่นและระเบียง รวมทั้งอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดกว้างขวาง พร้อมบริการอื่น ๆ ในที่พัก เช่น Wi-Fi ฟรี ห้องอาหาร บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ บาร์บรรยากาศโปร่งสบาย อุปกรณ์ทำบาร์บีคิว ฟิตเนส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง รวมถึงบริการนวดสปา คิดส์คลับ มีรถ ATV และจักรยานให้ยืม บริการรถรับส่งสนามบิน และที่จอดรถ

ราคา : พูลวิลล่าเริ่มต้น 6,250 บาท/คืน
ที่อยู่ : 60/14 หมู่ 2 ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100
เบอร์โทร : 052 029 924

4. เดอะ เลเจนด์ เชียงราย บูติก ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา

เดอะ เลเจนด์ เชียงราย บูติก ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา

เดอะ เลเจนด์ เชียงราย บูติก ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (The Legend Chiang Rai Boutique River Resort & Spa) พูลวิลล่าเชียงรายแบบรีสอร์ทระดับ 4 ดาว ทำเลดีมากอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับวัดร่องเสือเต้นเพียง 630 ม. และห่างจากเชียงรายไนท์บาซาร์เพียง 3 กม. อยู่ติดแม่น้ำกกวิวสวยมาก ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด บรรยากาศสุดผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักผ่อน ให้บริการห้องพักและวิลล่ากว่า 78 ห้อง

ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีกลิ่นอายสไตล์ล้านนา ทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัว ส่วนพูลวิลล่าแบบเป็นหลังจะมีพื้นที่กว้างขวาง มาพร้อมห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน อ่างอาบน้ำภายในห้องน้ำ พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งส่วนตัว และชิงช้านั่งชมวิวริมแม่น้ำสุดผ่อนคลาย พร้อมกับบริการต่าง ๆ ภายในที่พัก อาทิ Wi-Fi ฟรี ห้องอาหาร 3 แห่ง รวมถึงบาร์ สระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมเก้าอี้อาบแดด ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสริมสวย ห้องอ่านหนังสือ ฟิตเนส บริการสปา จักรยานให้ยืม บริการรถรับส่ง และที่จอดรถ

ราคา : เริ่มต้น 1,849 บาท/คืน
ที่อยู่ : 124/15 หมู่ 21 ถนนรอบเวียง ซอยเกาะลอย 14 อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57000
เบอร์โทร : 053 910 400read more

บ้านสไตล์มินิมอลชั้นเดียว

บ้านสไตล์มินิมอลชั้นเดียว

บ้านสไตล์มินิมอลชั้นเดียว

บ้านสไตล์มินิมอลชั้นเดียว

บ้านสไตล์มินิมอลชั้นเดียว บ้านมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น ชัดเจนในความอุ่นใจน้อยกับมากอะไรดีกว่ากัน ถ้าเป็นตัวเงินหรือสิ่งของมากก็คงดีกว่า แต่น่าแปลกที่ทำไมบางสถานการณ์ถึงรู้สึกว่าน้อยกลับดีกว่ามาก อย่างบ้านสไตล์มินิมอล (Minimal) หรือการแต่งบ้านแบบ MUJI ที่เน้นเส้นสายภายนอกที่เรียบ ๆ ภายในการตกแต่งเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย  สีสันของสไตล์มินิมอลมักเลือกใช้สีเพียงไม่กี่คู่สี และเน้นการออกแบบที่เห็นเส้นขอบชัดเจน รูปทรงเรขาคณิต เป็นความน้อยที่รู้สึกได้ทันทีว่าอุ่นใจมากในทุกครั้งที่มอง จึงไม่น่าแปลกที่บานสไตล์นี้จะเริ่มเข้ามานั่งอยู่ในใจของคนรักบ้านรุ่นใหม่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ

บ้านโมเดิร์นมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น

โครงการบ้านจาก LITTLE HOUSE PECAN แม่น้ำคู้ 3 ระยอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ญี่ปุ่น ดีไซน์ภายนอกไม่หวือหวา เน้นผนังโทนสีขาวสะอาดตาและงานไม้ตัดด้วยกระเบื้องหลังคาสีเข้ม เมื่อได้มองมาก็รู้สึกเหมือนจิตใจจะสงบลงได้อย่างง่ายดาย ด้านหน้ามีสเปซโล่ง ๆ สำหรับทำเป็นที่จอดรถหรือนั่งเล่นอเนกประสงค์ในช่วงกลางวันได้ ผนังด้านข้างแอบซ่อนฟังก์ชันตู้เก็บของแบบแนบเนียน แม้จะมีความเรียบง่ายแต่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพcheck here

บ้านสไตล์มินิมอลชั้นเดียว

สิ่งที่สะดุดตาตั้งแต่ด้านหน้า คือ ประตูที่เชื่อมระหว่าง 2 บ้าน เป็นซุ้มคอนกรีตสีขาวใส่ประตูไม้บานคู่ตีระแนงซี่เล็ก ๆ คล้ายประตู senbon-koshi (หมายถึง ระแนงนับพัน เพราะประกอบด้วยไม้ซี่เล็ก ๆ) แบบช่างญี่ปุ่นดั้งเดิมสนามหญ้าวางทางเดินคอนกรีตสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นระยะ ติดผนังจัดสวนกระบองเพชรโรยด้วยกรวดเหมือนทะเลทรายจำลอง เพิ่มลูกเล่นน่ารัก ๆ ด้วยช่องแสงวงกลมใส่ระแนงไม้บนผนัง เป็นการออกแบบพื้นที่กลางแจ้งโดยผสมผสานเส้นสายเรขาคณิตและหลายๆ องค์ประกอบจากหลาย ๆ ภูมิภาคของโลกได้อยางน่ามอง

ภายในบ้านแต่ละหลังมีการแบ่งฟังก์ชันหลายรูปแบบต่าง ๆ มีทั้งชั้นเดียวหรือการแบบที่ยกระดับแบ่งพื้นที่ใช้ร่วมกันและแยกห้องส่วนตัวไว้ในส่วนที่สูงกว่า จัดวางเลย์เอ๊าต์ใหม่ที่ดูโปร่งโล่งและใช้สะดวกสบาย เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่เหมือนๆ กันทุกหลังคือการเลือกสีและเฟอร์นิเจอร์จะเป็นสีกลาง ๆ อาทิ ขาว ครีม น้ำตาล เทา เฉดล้อไปกับธรรมชาติ และฟอร์มเป็นแบบมินิมอลเส้นสายเรขาคณิตเรียบง่ายแต่ดูโมเดิร์น โดดเด่นกับม่านมู่ลี่ไม้  ผลลัพธ์คือความเรียบง่ายอย่างมีสไตล์และให้ความรู้สึกอบอุ่น ขาว ๆ และสีไม้มีความเป็นโฮมมี่

สิ่งที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของญี่ปุ่นในแบบบ้านสมัยใหม่ นอกจากงานไม้ไม่ทำสี ระแนงไม้ ม่านมู่ลี่ไม้ ยังมีเบาะนั่งกับพื้นที่มาคู่กับโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ย ๆ ที่ให้ความรู้ถึงติดดินอ่อนน้อมถ่อมตัว ซึ่งเป็นหนึ่งเอกลักษณ์ของบุคลลิกความเป็นญี่ปุ่นที่ยังส่งต่อมาทุกยุคสมัย

ในบ้านแต่ละหลังจะตกแต่งโดยเน้นให้มีความรู้สึกแบบญี่ปุ่นผ่านของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ในระดับที่ไม่เท่ากัน บางหลังเฟอร์นิเจอร์โครงสร้างเหล็กมีเส้นตรงเส้นโค้ง นำเสนอความเรียบง่ายและทันสมัยแบบญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์นมินิมอล โทนสีหลากหลาย แต่บางหลังจะเน้นความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เป็นผู้ใหญ่ โทนสีขรึม ๆ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และเส้นสายตรงไปตรงมาขึ้นมากอีกนิด

ครัวในฝันสำหรับคุณแม่บ้านที่ชื่นชอบความน่ารัก ด้วยขนาดกะทัดรัดและการใช้สีขาวเป็นหลักตกแต่งด้วยงานไม้ให้ดูโฮมมี่  มีครบฟังก์ชันที่จำเป็นต้องใช้ เคาน์เตอร์ครัวในตัวอย่างนี้แบ่งเป็น 2 ด้าน แยกฟังก์ชันเคาน์เตอร์หนึ่งสำหรับล้าง เตรียมอาหาร เตาแก๊ส เหนือศีรษะเป็นตู้เก็บของเล็ก ๆ  ส่วนอีกด้านหนึ่งมีช่องว่างใต้เคาน์เตอร์ซ่อนชุดโต๊ะล้อเลื่อนดึงออกมาทานข้าว ดื่มกาแฟ และใช้งานอเนกประสงค์ได้

ที่นอนติดพื้นชวนสบาย

บ้านโมเดิร์นมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น

โครงการบ้าน ห้องนอนบรรยากาศชวนพักผ่อนสไตล์เอเชียที่คุ้นเคยกับการนอนแบบติดพื้น (floor bed) แต่ห้องนี้บิลท์ฐานเตียงยกขึ้นจากพื้นเหมือนเป็นเวทีไม้แล้ววางฟูกลงไปง่าย ๆ ให้สามารถใช้พื้นที่ว่างที่เหลือปลายเตียงนั่งเล่นได้ ข้างใต้มีฟังก์ชันเสริมเป็นช่องกล่องใส่ของเก็บของใช้ที่ไม่ต้องการให้รกตา เป็นการบริหารพื้นที่จัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ห้องดูแลทำความสะอาดง่ายไม่รกตา

คอนเซ็ปต์หลักของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล คือ Less is More ภายในบ้านจึงต้องมีที่ว่าง โปร่ง โล่ง เฟอร์นิเจอร์ไม่ต้องเยอะแต่ฟังก์ชันต้องครบ เทคนิคที่ใคร ๆ ก็ยึดในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล คือ ใช้สีกลาง ๆ หรือเอิร์ธโทนให้ดูสบายตา, เฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรขาคณิต, เลือกวัสดุเป็นไม้, ใช้ประตูบานเลื่อน

สิ่งสำคัญคือการออกแบบตกแต่งให้มีพื้นที่จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบไม่รกตา อาจจะซ่อนฟังก์ชันจัดเก็บตามจุดต่าง ๆ อาทิ ผนัง ใต้บันได ใต้เตียง เป็นต้น ส่วนงานไม้สามารถใช้ได้หลายเฉดสี แต่ละสีก็ให้อารมณ์ต่างกัน ไม้สีเข้มจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่า ถ้ามีไม้ที่สีเข้มเกินความต้องการก็อาจจะใช้เทคนิคการกัดสีไม้เพื่อให้สีอ่อนลงจะทำให้ได้อารมณ์ไม้ที่ดูทันสมัยขึ้นแบบบ้าน

หากจะพูดถึงรสนิยมการแต่งบ้านของคนปัจจุบัน เชื่อว่าร้อยละ 90 ให้ความสนใจในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เพราะการแต่งบ้านแนวมินิมอล หรือการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นนั้นมี Concept ที่ว่า Less is More ซึ่งหมายถึงการใช้โทนสีที่อบอุ่น เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่เต็มไปด้วยประโยชน์การใช้สอย ถ้าคุณอยากได้เทคนิคการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ได้รวบรวมเคล็ดลับที่จะเปลี่ยนบ้านคุณให้กลายเป็น ขนาดย่อมไว้แล้วที่นี่

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาไอเดีย ในการตกแต่งห้อง บ้าน หรือคอนโดมิเนียมกันอยู่นั้น การตกแต่งด้วยสไตล์มินิมอล ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเป็นการตกแต่งที่ให้บรรยากาศที่เรียบง่าย สบายตา เพื่อสร้างบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย

และวันนี้ ในบ้าน ก็มีรีวิวการตกแต่งบ้าน ด้วยสไตล์นี้ โดยเป็นการประยุกต์ใช้เฟอร์นิเจอร์ในราคาประหยัดมาใช้ในการตกแต่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็น การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ด้วยงบประมาณที่เอื้อมถึง

 การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล

บ้านโมเดิร์นมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น

1. สี Earth Tone เท่านั้นที่คู่ควร

ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกสี ควรเป็นสีเอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาล สีเขียว สีฟ้า ในเฉดที่ไม่ฉูดฉาด หรือจะเป็นสีโมโนโทนอ่อน ๆ ก็ได้ ซึ่งการแต่งบ้านแนวมินิมอลด้วยสีเหล่านี้จะทำให้ทุกครั้งที่คุณก้าวเข้าบ้านความอบอุ่นและความเรียบง่ายจะเข้ามาทักทายคุณทันทีเมื่อเปิดประตู

2. เฟอร์ฯ น้อย แต่ฟังก์ชันเยอะ

การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความมินิมอลนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์จุกจิกหลายชิ้นจนล้นบ้าน ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ฟังก์ชันครบจบในหนึ่งเดียว เช่น เตียงนอนที่มีตู้เก็บของใต้เตียง หรือตู้เสื้อผ้าที่สามารถเก็บเครื่องประดับได้ด้วย เป็นต้น นอกจากนั้นในการแต่งบ้านแนวมินิมอล ต้องไม่ลืมที่จะเลือกสีของเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับโทนสีของบ้านด้วย

3. เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือโลหะ

หลาย ๆ คนคงเคยเดินเข้าไปในร้าน Muji แล้วรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่บ้านในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคุณสามารถแต่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบ Muji ตามได้ไม่ยาก เพียงคุณเลือกใช้วัสดุหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเป็นไม้ เพราะความเป็นไม้จะทำให้บ้านของคุณดูคลีนและสะอาดตา หรือหากคุณชอบบ้านแนวดิบ ๆ สักหน่อย การเลือกใช้วัสดุที่เป็นโลหะตกแต่งบ้านสไตล์ Loft ก็ถือเป็นการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่น่าสนใจไม่เบา

4. เปิดช่องให้แสงแดดส่องผ่าน

การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นเน้นความอบอุ่น ซึ่งการมีหน้าต่างหรือการแต่งบ้านให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างทั่วถึงนั้น จะทำให้บ้านของคุณดูโปร่ง โล่ง สบายมากขึ้น วิธีการแต่งบ้านแนวมินิมอลง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้คือการเจาะเพดานทำ Skylight หรือ ทำหน้าต่างพร้อมม่านแบบโปร่งแสง เพียงเท่านี้ก็ทำให้บ้านในเมืองไทยของคุณกลายเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นได้ในทันที

5. เติมธรรมชาติเข้าบ้านคือวิถีชาวมินิมอล

ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือต้นไม้ เพียงคุณนำต้นไม้ฟอกอากาศ หรือไม้ประดับอื่น ๆ มาวางไว้บริเวณมุมห้อง ก็ทำให้การแต่งห้องแนวมินิมอลของคุณดูกรีนขึ้นทันตา หรือหากไม่ชอบต้นไม้ ลองเปลี่ยนเป็นดอกไม้มาปักแจกันใสก็ดูมินิมอลไปอีกแบบเช่นกัน

6. ให้กรอบรูปสร้างบรรยากาศ

การนำกรอบมารูปมาแปะผนังก็ถือเป็นการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่น่าสนใจอีกแบบ เพราะการมีรูปภาพติดฝาผนังจะเป็นการดึงดูดสายตาและเพิ่มความมินิมอลได้มากขึ้น ยิ่งเป็นกรอบรูปไม้ กรอบรูปสีขาวที่เข้ากับโทนสีของบ้าน หรือภาพลายเส้นมินิมอลที่ฮิต ๆ กัน ยิ่งทำให้การแต่งบ้านแนวมินิมอลของคุณดูอบอุ่นขึ้นทันตา หากคุณมีกรอบรูปแล้วแต่ยังไม่รู้จะติดยังไงไม่ให้รก อ่านเพิ่มเติม ติดกรอบรูปบนฝาผนังอย่างไรให้มีศิลปะ

บ้านโมเดิร์นมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น

7. เลือกประตูบานเลื่อน

หากใครเคยดูหนังญี่ปุ่นจะพบว่าการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะเน้นการทำประตูบานเลื่อน ซึ่งการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลก็เช่นกัน การเลือกใช้ประตูบานเลื่อนนั้นจะเพิ่มกิมมิกให้กับบ้านคุณอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนั้นการใช้ประตูบานเลื่อนในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นยังช่วยเซฟพื้นที่ใช้สอยขึ้นอีกมากเลยทีเดียว ยิ่งเป็นบานเลื่อนแบบโปร่งใสหรือใช้วัสดุที่เป็นไม้จะดีมาก ถือเป็นการเพิ่มความมินิมอลขึ้นไปอีกระดับ

8. เหลือ Space ไว้ให้หายใจ

คอนเซ็ปต์ของความมินิมอลคือ Less is More เพราะฉะนั้นในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล การเหลือพื้นที่ว่างไว้ให้บ้านดูโล่ง ๆ บ้างก็ดูจะสบายตาอยู่ไม่น้อย หากจัดสรรเฟอร์นิเจอร์และพื้นที่ว่างได้อย่างลงตัวและสมดุลแล้ว จะทำให้การแต่งบ้านแนวมินิมอลของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น

9. วางเครื่องใช้ไฟฟ้าชิดขอบผนัง

เทคนิคการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่ห้ามลืม คือการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ชิดติดขอบผนังบ้านเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เตาอบ หรือเครื่องซักผ้า รวมไปถึงโต๊ะและเก้าอี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเดินในบ้าน และดูเป็นระเบียบมากขึ้น  

10. เลือกโคมไฟทรงเรียบง่าย

สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับการแต่งห้องแบบมินิมอลคือโคมไฟ ควรเน้นรูปทรงที่เรียบง่าย และเลือกหลอดไฟสีขาวหรือส้มสลัว ๆ จะช่วยให้ห้องดูอบอุ่นมากขึ้น หรือเสริมด้วยไฟแต่งห้อง LED ก็ได้ ดูเก๋และน่ารักไปอีกแบบ 

หัวใจหลักของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือ Less in More คิดไว้เสมอว่าเฟอร์นิเจอร์ในบ้านต้องไม่เยอะ แต่ฟังก์ชันแน่น สีต้องเอิร์ธโทนหรือโมโนโทนเท่านั้น และไม่ลืมที่จะเติมธรรมชาติเข้าบ้านด้วยการปลูกต้นไม้ เท่านี้บ้านของคุณก็เรียกได้ว่าเป็นสไตล์มินิมอลแล้วล่ะ

ทาวน์เฮาส์แฝด

ทาวน์เฮาส์แฝด 

ทาวน์เฮาส์แฝด 

ทาวน์เฮาส์แฝด 

การมีบ้าน ที่เหมาะกับตนเองนั้นหายาก วันนี้ villagesale.live ขอแนะนำ ทาวน์เฮาส์แฝด  ทาวน์เฮ้าส์ คือ บ้านแถวหรือตึกแถวที่มีหน้าตาและรูปแบบการออกแบบเหมือนกัน ตัวบ้านอยู่ชิดติดกันเป็นแถบตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป ความสูงไม่เกิน 3 ชั้น ส่วนใหญ่แล้วมักสร้างเป็นบ้านแถว 2 ชั้น มีกำแพงกั้นระหว่างบ้านเท่านั้น ไม่ได้มีรั้วแยกอาณาเขตบ้านแต่ละหลังอย่างชัดเจน

แน่นอนว่าพื้นที่หรือบริเวณภายในตัวบ้านค่อนข้างเล็กและจำกัด พื้นที่ใช้สอยพอประมาณ เช่น 2 ห้องน้ำ 3 ห้องนอน 1 ห้องครัว พื้นที่พอเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้บ้าง

ส่วนใหญ่จะมีระยะห่างระหว่างบ้านแต่ละหลังน้อย เนื่องจากไม่มีรั้วกั้น ส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างน้อยตามไปด้วย เมื่อพูดถึงเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องบอกว่าทาวน์เฮ้าส์ไม่มีส่วนกลาง หรือคลับเฮ้าส์ที่ใช้ร่วมกันเหมือนโครงการบ้านจัดสรรอื่น ๆ

สำหรับสองครอบครัว พรางตาให้ดูเป็นหลังเดียวบนถนนที่อยู่ทาวน์เฮาส์อาศัยอันเงียบสงบในย่านชานเมืองของเมลเบิร์น Thornbury เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ที่ผุดขึ้นท่ามกลางบ้านอิฐสีแดงและสีครีม เป็นอาคารใหม่ที่ใช้วัสดุ สี และรูปทรงที่เรียบง่ายแต่กลับโดดเด่นสะดุดตา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ

บ้าน นี้เป็นทาวน์เฮาส์แฝดที่ไม่สังเกตดี ๆ ก็ไม่รู้ว่ามี 2 หลัง สำหรับเจ้าของบ้านนี้เป็นครอบครัวเดียวกันสองเจเนอเรชัน ครอบครัวแรกเป็นคู่สามีภรรยาสูงอายุ และอีกหนึ่งครอบครัวที่มีลูกเล็ก ทั้งสองกลุ่มร่วมมือกันจัดทำบทสรุปร่วมกันที่ตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันของพวกเขา แล้วนำมาทำซ้ำแผนเดียวกันในแปลนของตัวเองได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือบ้านที่มีชิ้นส่วนแบบธรรมดาแต่สามารถปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นให้เหมาะกับการใช้งานได้

ทาวน์เฮาส์สไตล์โมเดิร์น

ทาวน์เฮาส์แฝด 

บนถนนที่อยู่ทาวน์เฮาส์อาศัยอันเงียบสงบในย่านชานเมืองของเมลเบิร์น Thornbury เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ที่ผุดขึ้นท่ามกลางบ้านอิฐสีแดงและสีครีม เป็นอาคารใหม่ที่ใช้วัสดุ สี และรูปทรงที่เรียบง่ายแต่กลับโดดเด่นสะดุดตา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ บ้านนี้เป็นทาวน์เฮาส์แฝดที่ไม่สังเกตดี ๆ ก็ไม่รู้ว่ามี 2 หลัง

สำหรับเจ้าของบ้านนี้เป็นครอบครัวเดียวกันสองเจเนอเรชัน ครอบครัวแรกเป็นคู่สามีภรรยาสูงอายุ และอีกหนึ่งครอบครัวที่มีลูกเล็ก ทั้งสองกลุ่มร่วมมือกันจัดทำบทสรุปร่วมกันที่ตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันของพวกเขา แล้วนำมาทำซ้ำแผนเดียวกันในแปลนของตัวเองได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือบ้านที่มีชิ้นส่วนแบบธรรมดาแต่สามารถปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นให้เหมาะกับการใช้งานได้

ทาวน์เฮาส์สำหรับผู้เข้าพักเป็นคู่ (Dual Occupancy) หรือบ้านแฝดที่อยู่สองครอบครัวในหลังเดียว เป็นเรื่องปกติในเขตชานเมืองชั้นในตอนเหนือของเมลเบิร์น หลายหลังขาดระเบียบทางสถาปัตยกรรมที่ชัดเจน แต่ทาวน์เฮาส์ Thornbury ของ Fowler  ต่างออกไปเพราะที่นี่นอกจากจะมีเส้นสายที่ผ่านการคิดมาแล้ว มีวัสดุที่จับต้องได้ไม่แพงอย่างเมทัลชีท ไม้ อิฐ และเพิ่มฟาซาดให้ความความเป็นส่วนตัว ภายในยังแบ่งสัดส่วนการใช้งานและมีส่วนที่ใช้งานแบบโปร่งโล่งสบายๆ

ภาพรวมของบ้านดูง่าย ๆ แต่ถ้ามองภาพใกล้ ๆ จะเห็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้บ้านมีหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น สวนโล่ง ๆ ที่ทางเข้า ปูด้วยแผ่นหินกลางพื้นทรายที่นำสายตาเข้ามาคู่กัน 2ด้าน กรอบบ้านเป็นคอนกรีตพ่นทรายหยาบๆ ที่มีส่วนลึกรองรับรูปแบบหน้าจั่วสีขาวที่คมชัดด้านบน

ที่ชั้นล่างยังมีประตูไม้สีน้ำตาลอันอบอุ่นเผยให้เห็นส่วนความลึกเข้าไป ต้นไม้ใบหญ้าที่ตกแต่งบ้านเสริมแนวสถาปัตยกรรม ส่วนองค์ประกอบของอาคารอย่างกรอบบ้านที่ยาวเป็นกรอบเดียว ผนังกระจกที่แทรกอยู่ ทำให้ยากต่อการพิจารณาในทันทีว่านี่คือบ้านหนึ่งหรือสองหลัง

ทาวน์เฮ้าส์ดีอย่างไร

แต่ละบ้านจะมีทางเข้าและบันไดแยกกันเป็นคนละคูหา ด้านหน้าที่ติดถนนหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งให้แสงที่มีคุณภาพในช่วงเช้า สิ่งที่เป็นข้อพิจารณาหลัก คือการพยายามนำแสงทางทิศนี้มาสู่พื้นที่อยู่อาศัย นักออกแบบจึงใส่ผนังกระจกใสขนาดใหญ่ด้านล่าง หลังคาที่มีความแหลมสูงชันเหนือห้องนั่งเล่นชั้นบนก็มีจังหวะของช่องแสงทางทิศเหนือเช่นกัน สำหรับชั้นล่างมีส่วนที่เจาะพื้นที่สูงสองเท่าโปร่ง ๆ 

ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างชั้นทำให้การปฏิสัมพันธ์กันง่ายขึ้น และช่วยระบายอากาศพร้อมกระจายแสงเข้าสู่ตัวบ้าน ในจุดต่ำของหลังคาจั่วแหลมจะติดกับลานด้านหลัง ให้มุมมองที่ดูต่ำช่วยลดผลกระทบต่อภาพที่มีต่อบ้านที่อยู่ใกล้เคียงผนังสีขาว ไม้สีน้ำตาล กระจกใส เป็นสามสิ่งที่แม้จะไม่มีรายละเอียดความหรูหรา แต่เมื่อจับมาอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกว่าอิ่มครบไม่ขาดไม่เกิน

พื้นที่ใช้สอยหลักในบ้านพยายามจับแสงเหนือผ่านหน้าต่าง และช่องแสงทั้งแนวนอนและแนวตั้ง เพื่อให้แสงแดดส่องถึงโดยตรง ทำให้ได้ประโยชน์จากมวลความร้อนในช่วงหน้าหนาวด้วย ความใสของกระจกยังช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิว พร้อม ๆ กับสร้างความรู้สึกโปร่งเบาให้บ้านดูกว้างขึ้น มีอิสระทางสายตาและพื้นที่มากขึ้นการตกแต่งใช้วัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ไม้ หินขัด อิฐ โทนสีอ่อนๆ มีความเป็นเอิร์ธโทน อย่างเช่น สีชานม สีเขียวหัวเป็ด เฟอร์นิเจอร์เลือกน้อยชิ้นเท่าที่จำเป็น รูปลักษณ์ดีไซน์เรขาคณิต บางชิ้นเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง มุมมมน ที่ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูผ่อนคลายสบายตา

สถาปนิกพยายามจัดฟังก์ชันเอาไว้ที่ด้านหนึ่งของบ้าน แล้วจัดให้มีที่ว่างสำหรับทำเป็นโถงบันไดเชื่อมต่อระหว่างชั้นข้างๆ โดยใส่ช่องแสงในพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ให้บ้านมีความสว่างในระหว่างขึ้นลงบันไดและมีช่องแสง skylight ในบางจุด วิธีนี้ทำให้บ้านที่มีผนังติด ๆ กันไม่ขาดแสงธรรมชาติภายใน

ทาวน์เฮ้าส์ดีอย่างไร

นอกจากการออกแบบฟังก์ชันแล้ว สิ่งที่ซ่อนอยู่ในบ้านนี้ด้วยคือ “ความยั่งยืน” ที่เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการออกแบบ และไม่ใช่สิ่งที่นำมาใช้ในภายหลังเพื่อเป็นส่วนเสริม จากความคิดนี้ทำให้สถาปนิกรวมการดีไซน์บ้านเข้ากับการออกแบบพลังงานไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นการวางแนวแสงอาทิตย์

ตำแหน่งของมวลความร้อน ฉนวนกันร้อนกันหนาว ตำแหน่งและขนาดของประตูหน้าต่าง ระบบกักเก็บน้ำ และวัสดุ ทั้งหมดเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ และแต่ละส่วนเหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างบ้านที่ยั่งยืนในเมืองไทยทาวน์โฮม ตามกฎหมายจะต้องมีลักษณะดังนี้ คือ หน้ากว้างอย่างต่ำ 4 เมตร มีพื้นที่ว่างด้านหน้า

ระหว่างแนวรั้วหรือแนวเขตที่ดินกับแนวผนังบ้าน กว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร มีพื้นที่ว่างด้านหลังไม่น้อยกว่า 2 เมตร หากมีทาวน์โฮมกว้าง 4 เมตร ติดกัน 10 หลัง ต้องมีระยะห่างเว้นว่าง 4 เมตร ข้อดีของทาวน์โฮมคือ อยู่ในช่วงราคาที่คนส่วนใหญ่เอื้อมถึงได้  ส่วนข้อด้อย เช่น ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า การต้องใช้รั้วและกำแพงร่วมกับเพื่อนบ้านอาจทำให้เกิดปํญหา และมักเกิดปัยหาขาดแสงภายใน จึงต้องจัดการเรื่องแสงและการระบายอากาศให้ดี

ทาวน์เฮ้าส์ดีอย่างไร

 ใครกำลังอยากซื้อที่อยู่อาศัย อาจกำลังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อบ้าน คอนโด หรือทาวน์เฮ้าส์ดี เพราะข้อแตกต่างรวมถึงข้อดีข้อเสียของที่อยู่อาศัยเหล่านี้ก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าที่อยู่อาศัยแบบไหนจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ๆ ได้มากที่สุด แต่ถ้าตอนนี้กำลังเล็งทาวน์เฮาส์ดี ๆ สักหลังอยู่ ลองมาดูข้อดีของการอยู่ทาวน์เฮ้าส์เอาไว้เสริมความมั่นใจอีกสักทีดีไหมคะ

1. มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ

          การอยู่ทาวน์เฮ้าส์จะทำให้คุณมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงแบบชิดเชื้อสุด ๆ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือกรณีฉุกเฉินขึ้นมา โดยที่ไม่มีสมาชิกคนอื่นในครอบครัวอยู่บ้านเลยสักคน เพื่อนบ้านจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดในยามคับขันอย่างนี้ อีกทั้งเวลาที่คุณยกครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือมีเหตุต้องทิ้งบ้านเป็นเวลาหลายวัน ก็ยังมีเพื่อนบ้านคอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่ตลอด

2. อบอุ่นและปลอดภัย

          นอกจากเราจะมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงไว้พึ่งพาแล้ว การที่มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ในอาคารถัด ๆ ไปจากเรายังช่วยให้สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ทาวน์เฮ้าส์ดูคึกคัก ไม่เปลี่ยวจนน่ากลัวจะเกิดเหตุร้ายที่มักเกิดในที่ลับหูลับตาคน ซึ่งก็น่าจะหายห่วงเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งเหมือนกัน โดยเฉพาะหากเพื่อนบ้านรอบ ๆ ด้านมีความเป็นมิตรและเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน

3. พื้นที่ใช้สอยเหมาะสม ในราคาเอื้อมไหว

          ทาวน์เฮ้าส์จัดอยู่ในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่สูงมาก แต่กลับมีพื้นที่ใช้สอยเหมาะกับครอบครัวเล็ก ๆ พอสมควร ทั้งห้องนอนประมาณ 2-3 ห้อง ห้องนั่งเล่น ส่วนครัว และพื้นที่หน้าบ้านเล็กน้อยให้พอจอดรถ หรือจัดสวนขนาดย่อม ซึ่งหากเทียบกับราคาบ้านเดี่ยวแล้วคงต่างกันไม่ใช่ย่อย ดังนั้นทาวน์เฮ้าส์ก็น่าจะตอบโจทย์คนที่รายได้ไม่มากนักแต่ต้องการซื้อบ้านมากกว่าคอนโดนั่นเอง

4. ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวก

          เหตุผลหลัก ๆ ที่จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกอยู่ที่ไหนสักแห่งคงหนีไม่พ้นเรื่องทำเลแน่นอน ซึ่งทาวน์เฮ้าส์ส่วนมากก็มักจะตั้งอยู่ในแถบชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือบางทีอาจจะอยู่ใกล้สวนสาธารณะ ตลาดสด รวมทั้งห้างสรรพสินค้าสักแห่ง ไปไหนมาไหนสะดวกสบายไม่น้อยเลย ซึ่งถ้าในทำเลเดียวกันแต่เป็นบ้านเดี่ยวก็อาจจะราคาสูงจนสู้ไม่ไหว

5. ประหยัดค่าบำรุงรักษา ดูแลง่าย

          บ้านยิ่งใหญ่ พื้นที่ยิ่งกว้างก็ย่อมต้องดูแลรักษาสภาพแวดล้อมรวมทั้งภูมิทัศน์รอบ ๆ บ้านมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจุดนี้คงต้องใช้ค่าใช้จ่ายพอสมควรเลยนะคะ แต่หากเป็นทาวน์เฮ้าส์ นอกจากโครงสร้างอาคารแล้ว ก็มีส่วนหน้าบ้านอีกเล็กน้อยให้ดูแล ไม่เหมือนคอนโดที่มีแค่ระเบียงเล็ก ๆ และสำหรับคนที่อยากมีสวนขนาดย่อมแบบพอหอมปากหอมคอ จัดส่วนหย่อมหน้าบ้านทาวน์เฮ้าส์พอให้ชุ่มชื่นก็เก๋ดีเหมือนกัน แถมยังดูแลรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายเบากว่าบ้านเดี่ยวอีกด้วย

บ้านสไตล์ลอฟท์

บ้านสไตล์ลอฟท์

บ้านสไตล์ลอฟท์

บ้านสไตล์ลอฟท์

บ้านสไตล์ลอฟท์ Loft meet Tropical แต่งบ้านเขตร้อนให้เท่และเย็นชีวิตที่เร่งรีบในแบบคนเมืองต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และการเดินทางที่แออัดยัดเยียด เมื่อกลับมาถึงบ้านย่อมต้องการความผ่อนคลายไปกับบ้านที่เปิดโปร่ง ๆ หายใจได้สะดวก ไม่อึดอัดกับบ้านที่ปิดล้อมด้วยผนังทึบทั้ง 4 ด้าน

ซึ่งดับเบิ้ลสเปซและความดิบเปลือยเรียบ ๆ เย็น ๆ ของคอนกรีตช่วยคุณได้ ในเนื้อหานี้ จะพาไปชมแนวความคิดในการตกแต่งบ้านที่ผสมผสานระหว่างลอฟท์สไตล์ที่เต็มไปด้วยความตรงไปตรงมาของวัสดุ และความน่าสบายของบ้านเขตร้อนชื้นที่เน้นความโปร่งสบายที่มารวมกันได้อย่างลงตัว กลับบ้านเมื่อไหร่ก็ผ่อนคลายเมื่อนั้นครับ

บ้านสไตล์ลอฟท์ เหมาะกับเขตร้อนชื้น

บ้านสไตล์ลอฟท์

Niscala Villa เป็นชื่อของโครงการบ้านพักตากอากาศขนาด 5 ห้องนอนในบาหลี อินโดนีเซีย ออกแบบสไตล์ทรอปิคอล เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศเขตร้อนชื้น และสภาพอากาศค่อนข้างรุนแรง โดยผสมผสานการใช้วัสดุและการดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากขึ้นในรูปแบบลอฟท์ ซึ่งมีจุดเด่นคือ Space

ที่มีความต่อเนื่องทำให้บ้านดูโล่งกว้าง เพดานสูงและประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยสัจจะวัสดุโชว์ให้เห็นผิวสัมผัสและสีที่แท้จริง จึงเป็นที่มาของบ้านโถงสูงพื้นบ้านและผนังปูนขัดมันดิบ ๆ และงานไม้ แทรกด้วยงานเหล็กให้ความรู้สึกเรียบง่ายทันสมัย รอบ ๆ ตัวบ้านเต็มไปด้วยช่องเปิดขนาดใหญ่ เพื่อให้บ้านระบายอากาศร้อนและลดความชื้นภายในได้เป็นอย่างดี

เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวบ้านภายในส่วนครัวและห้องนั่งเล่น จะเห็นรูปทรงเพดานเป็นทรงจั่วเจาะโถงสูงแบบดับเบิ้ลสเปซ (Double Space) เป็นที่ว่างจากพื้นถึงฝ้าเพดานหรือหลังคาที่มีความสูงมากกว่าระดับทั่วไปประมาณ 2 เท่า ซึ่งทำให้พื้นที่ใช้งานระหว่างชั้นล่างและชั้นบนมีความต่อเนื่องกัน

และยังช่วยต่อเชื่อมมุมมองทางสายตาให้บ้านรู้สึกโปร่งโล่งเป็นพิเศษ โถงสูงยังช่วยในเรื่องการระบายอากาศร้อนได้ดี เพราะอากาศร้อนจะลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกจากตัวบ้านได้ดี อากาศภายนอกจึงเข้ามาหมุนเวียนได้สะดวกตามไปด้วย บนผนังด้านข้างครัวบริเวณจั่วบ้านเจาะช่องแสงเป็นรูปสามเหลี่ยมช่วยให้แสงแดดสามารถส่องเข้ามาภายในอาคารได้มากขึ้นสีเทาและสัมผัสของคอนกรีตที่เรียบเย็น

ให้ความรู้สึกค่อนข้างแข็งกระด้าง หากใช้ในบริเวณกว้างอาจจะทำให้รู้สึกว่าบ้านดิบและไม่มีชีวิตชีวา การเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือตกแต่งบ้านด้วยองค์ประกอบของไม้ ต้นไม้ใบเขียวสด พรมลายกราฟฟิกขาว-ดำ งานผ้าสีเอิร์ธโทนจะช่วยลดทอนความดิบกระด้างของคอนกรีตได้เป็นอย่างดี

บ้านโถงสูง สวน ช่องเปิด สร้างความสดชื่นให้บ้าน

บ้านสไตล์ลอฟท์

พื้นที่ห้องนั่งเล่นและบันได ต่อเนื่องกันเป็นดับเบิ้ลสเปซ (Double Space) นำทางขึ้นไปสู่ชั้นลอยที่เจาะช่องเปิดให้ยังสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อดีของการเปิดพื้นที่แนวตั้งของบ้านให้เป็นโถงสูง ผนังด้านข้างบันไดใส่บานกระจกเรียงเป็นแถวเต็มพื้นที่ สามารถเปิดรับแสงและความสดชื่นจากสวนที่จัดเอาไว้เลียบทางเดินได้ตลอดเวลา บรรยากาศของบ้านจึงเต็มไปด้วยความสบายจากธรรมชาติที่สัมผัสได้ทั้งทางกาย ทางใจ และสายตา

เติมธรรมชาติเล็กๆน้อยๆ ลงไปตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน เช่น ใส่กระถางต้นไม้ใบเขียวสดฟอร์มใบสวยที่มุมนั่งเล่น ห้องน้ำ ระเบียง เพิ่มความสดชื่นให้บ้านการตกแต่งห้องนอนใช้สีเอิร์ธโทน (earth tone) หรือกลุ่มสีเบจ ครีม น้ำตาลอ่อน ตัดด้วยสีเทาดำ หรือสีของไม้ ซึ่งเป็นสีแห่งธรรมชาติ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายตา บ้านสไตล์ทรอปิคอลจะเน้นสร้างความเชื่อมโยงระหว่างตัวบ้าน และ ธรรมชาติค่อนข้างมากไม่เว้นแม้แต่ในห้องนอน

ด้วยการมีช่องเปิดหรือช่องลมเป็นประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อให้อากาศในบ้านมีการถ่ายเทและรับแสงสว่างเข้าสู่ภายในได้เต็มที่ ห้องนอนทุกห้องในบ้านนี้ใช้ผนังกระจกบานใหญ่ที่ดึงทั้งแสงธรรมชาติและเปิดมุมมองให้เห็นทิวทัศน์ภายนอกไปพร้อมๆ กัน

บ้านสไตล์ลอฟท์และทรอปิคอลมีจุดร่วมบางอย่างที่สามารถนำมาประยุกต์เข้าด้วยกันแล้วเกิดความพอดีคือ เน้นสเปซว่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความโปร่งสบายทั้งแนวนอนและแนวตั้ง บ้านลอฟท์และทรอปิคอลจึงมักจะกว้างและเพดานสูง วัสดุที่ใช้มีความเป็นธรรมชาติ  แตกต่างในรายละเอียดซึ่งลอฟท์จะดิบและให้อารมณ์เท่ ๆ แต่บรรยากาศของบ้านทรอปิคอลจะอบอุ่นมากกว่าด้วยงานไม้ หากนำข้อดีของแต่ละส่วนมาคัดสรรแล้วใส่ลงไปในบ้านให้เหมาะกับความชอบส่วนตัวและสภาพอากาศก็จะได้บ้านที่ตรงใจและตอบโจทย์ได้เต็มที่

ข้อดีของบ้านสไตล์ลอฟท์

บ้านสไตล์ลอฟท์

-เป็นงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากบ้านสไตล์ลอฟท์เป็นบ้านที่เน้นการโชว์โครงสร้างและผิวของวัสดุ ดังนั้นจึงเป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์ในแง่ของการดีไซน์
-บ้านสไตล์ลอฟท์ดูโปร่ง โล่ง น่าจะมาจากการเปลือยโครงสร้าง โชว์ผิววัสดุต่างๆ ดังนั้นจึงทำให้บ้านลอฟท์ดูโล่งมากกว่า
-จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้สะดวก บ้านสไตล์ลอฟท์มักปล่อยพื้นที่ส่วนใหญ่ให้ดูโล่ง ดังนั้นจึงสะดวกต่อการจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอย
-ช่วยจำกัดเวลาในการก่อสร้าง เนื่องจากบ้านสไตล์นี้ไม่ค่อยซับซ้อนดังนั้นจึงใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน

ข้อเสียของบ้านสไตล์ลอฟท์

-การดูแลรักษา เนื่องจากผนังทำจากวัสดุที่เป็นแบบปูนขัดมัน เมื่อผ่านการใช้งานไปนานๆ เราอาจต้องคอยเคลือบผนังด้วยน้ำยาเป็นประจำเพื่อความสวยงาม
-ต้องคอยควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน เนื่องจากบ้านสไตล์ลอฟท์เน้นความโปร่ง โล่ง และปล่อยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้จากทุกทิศทาง ดังนั้นในหน้าร้อนเราอาจควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้ยาก
-ควบคุมเรื่องเสียง เนื่องจากบ้านสไตล์ลอฟท์มักไม่ค่อยมีการกั้นห้องอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากในการควบคุมเรื่องเสียงที่อาจมาจากห้องต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน

สไตล์ลอฟท์นี้เป็นอย่างไร

 และหากจะ ย้อนกลับไปกันจริง ๆ แล้วสไตล์ลอฟท์ นี้เริ่มมาจากยุคหลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 โน่นเลยทีเดียว เพราะในความสงครามทำ ให้เศรษฐกิจช่วงนั้นตกต่ำ โรงงาน หลายแห่งต้องปิดตัวลง แต่คนก็ต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ก็เลยมีการดัดแปลงให้โรงงานที่ปิดตัวเหล่านั้นให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยแทน บ้างก็นำพวกเศษวัสดุจากโรงงานมาตกแต่งให้เกิดความสวยงามขึ้น นี่ก็เลยเป็นที่มาของสไตล์แบบใหม่หรือสไตล์ “ลอฟท์” นั่นเองแหละจ้า

ซึ่งเจ้าสไตล์ลอฟท์นี้ก็ได้มีการดัดแปลงและปรับประยุกต์ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน รวมไปถึงสถานที่ทุกแห่งก็สามารถเป็นสไตล์ลอฟท์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า หรืออาจพูดได้ว่าการตกแต่งสไตล์ลอฟท์กลายเป็นเอกลักษณ์และจุดดึงดูดลูกค้าอย่างหนึ่งไปแล้วในปัจจุบัน

          แต่ก็ไม่วายว่าหลายคนมัก จะเข้าใจผิด คิดว่าบ้านน็อคดาวน์ ในปัจจุบันก็คือบ้านสไตล์ลอฟท์ ช้าก่อน!!! จะบอกว่าบ้านทั้งสองแบบนี้ไม่ใช่ แบบเดียวกันนะจ๊ะ สำหรับบ้านน็อคดาวน์ก็เป็น รูปแบบการสร้างบ้าน แบบสำเร็จรูป โดยการสร้างบ้านลักษณะนี้ จะไม่มีเสาหรือคานในการรับน้ำหนัก แต่เลือกใช้ผนังเป็นตัวยึด โครงสร้างแทน

ทำให้สามารถ ถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกได้ เมื่อต้องถูก เคลื่อนย้าย ส่วนใหญ่จะใช้ โครงเหล็กเป็นหลัก บ้านน็อคดาวน์สามารถเป็นได้ทั้ง บ้านพักอาศัย บ้านพักใน สวนหลังบ้าน หรือแม้แต่โรงงาน อุตสาหกรรม ใช้เวลาในการก่อสร้างไม่นานเมื่อเทียบกับ บ้านโครงสร้าง คอนกรีต เสริมเหล็กทั่วไป (ค.ส.ล.) อีกทั้งยังสามารถ เคลื่อนย้ายได้ อย่างสะดวก เพราะมีโครงการที่ แข็งแรงทนทานสูงใน ขณะที่ตัวบ้านมี น้ำหนักเบา

บ้านสไตล์ลอฟท์

          ซึ่ง แบบบ้านน็อคดาวน์ ในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น กันทั้งชั้นเดียวและสองชั้น ในสไตล์ต่าง ๆ มีทั้งแบบโมเดิร์น เรือนไทย หรือแนวรีสอร์ท ซึ่งบางทีการออกแบบบ้านอาจจะมีการผสมผสานความเป็นลอฟท์เข้าไปด้วย จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่านั่นคือ บ้านลอฟท์ สรุปว่าความแตกต่างของบ้านทั้งสองประเภทนี้คือโครงสร้างและกระบวนการก่อสร้างนั่นเอง

เอกลักษณ์ของสไตล์ลอฟท์นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแค่ผนังปูนเปลือยขัดมันเพียงอย่างเดียวนะ จริงอยู่ที่เจ้าผนังปูนเปลือยขัดมันอาจเป็นหนึ่งคาแรคเตอร์หลักในการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ที่หลายคนนึกถึง แต่อย่างที่บอกไปไปเมื่อตอนต้นว่าลอฟท์คือพื้นที่ที่อยู่ในโรงงาน ดังนั้นวัสดุที่ใช้จึงมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น อิฐ หิน เหล็ก และไม้ 

ซึ่งหลายคนคงอยากจะรู้แนวทางว่าจะเลือกใช้วัสดุเหล่านี้อย่างไรกับการออกแบบและตกแต่งบ้านให้มีความลงตัว โดยเราจะลองมาทำความเข้าใจกับรูปแบบของลอฟท์ แบบ  Modern Design และ Contemporary Design ไว้เป็นแนวทางในการตกแต่งบ้านลอฟท์ของคุณอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น

ลักษณะของ บ้านลอฟท์ ต้องเป็นอย่างไร

          มาต่อกันถึงลักษณะ ของความเป็นบ้านลอฟท์ดีกว่า เอาแบบเน้น ๆ ไม่อ้อมค้อม สำหรับบ้านสไตล์ลอฟท์หรือบ้านปูนเปลือยนั้น โครงสร้างของตึก จะเน้นวัสดุเหล็ก ปูน อิฐ หากไม่มีการกรุผนังเพื่อความปกปิดผิว เราจะเห็นส่วนโครงสร้าง ทั้งเสา คาน การเดินท่อต่าง ๆ อย่างชัดเจน หลักการง่าย ๆ ของลอฟท์ก็คือการนำเอาโครงสร้างที่ดูแข็ง ๆ มาปรับเปลี่ยนให้เกิดความสวยงาม หรือทำให้พื้นที่ รกร้างกลายเป็นพื้น ที่น่าอยู่ หรือทำให้เกิดสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ขึ้นมาอันนี้แหละเรียกว่า ลอฟท์

          สำหรับคนที่อยากจะ แต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ ซึ่งบ้านลอฟท์ ในปัจจุบัน การตกแต่งต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น และไม่จำเป็น ต้องหาโกดังเก่า ตึกร้างเอา มาสร้างเป็นที่ อยู่อาศัยอะไร ขนาดนั้น แต่สามารถหยิบจับเอกลักษณ์รูปแบบ ของสถาปัตยกรรม เหล่านี้มาประยุกต์ ใช้ได้กับทุกสมัย ซึ่งสไตล์ลอฟท์ ในยุคปัจจุบัน อย่างที่บอกว่าไม่ได้แค่เป็นที่นิยมใน กลุ่มร้านกาแฟ รีสอร์ท โรงแรมเท่านั้น แต่ยังเอามาใช้ กับ การตกแต่งบ้านอย่าง แพร่หลายอีกด้วย

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง แบบบ้านโมเดิร์น เรียบง่าย นับว่าเป็นแบบอย่างบ้านที่มีการดีไซน์เรียบง่าย คุณลักษณะเด่นเลยเป็นการมีทรงที่เป็นเอกลักษณ์ มีการย้ำผลดีใช้สอย แถมยังราคาแพงที่ไม่สูงกระทั่งเหลือเกิน แม้กระนั้นถึงยังไงถ้าหากปรารถนาบ้านสไตล์โมเดิร์น อย่าลืมเลือกบ้านที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ แล้วก็พื้นที่การปลูกสร้าง เพื่อไม่ให้กำเนิดปัญหาด้านบ้านคราวหลัง เพื่อบ้านน่าอยู่ กำเนิดความซาบซึ้งต่อผู้พบเจอ

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง

แบบบ้านโมเดิร์น เรียบง่าย

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง

 บรรเทาด้วยระเบียงบ้านบ้านชั้นเดี่ยวสีขาว 70 ตารางเมตร 

แต่งสบาย แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ชั้นเดี่ยวสีขาว บ้านข้างหลังเล็กขนาดพื้นที่ใช้สอยข้างในโดยประมาณ 70 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวชะอุ่ม ทำให้บ้านล้ำยุคมองไม่แล้ง กลับให้ความรู้ความเข้าใจสึกสะดุดตาอย่างแจ่มใส หน้าบ้านย้ำการเปิดกว้าง ทำเป็นระเบียงไว้นั่งพักผ่อน พื้นที่กิจกรรมงานเลี้ยงกับครอบครัวในวันหยุด ด้านในตกแต่งอย่างเรียบง่าย ปูพื้นด้วยกระเบื้องมึงรนิโต ฝาผนัง เพดาน แล้วก็สีของบ้าน บ้านนอร์ดิก

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง

จะเน้นย้ำใช้โทนสีขาวเป็นหลัก เพื่อบ้านมองกว้าง สว่าง เครื่องเรือนไม้ เติมแต่งความอบอุ่นให้กับด้านใน ประตูหน้าต่างกระจก เพิ่มความแจ่มใสเตียนสบาย สำหรับบ้านข้างหลังนี้ งบประมาณสร้างไม่รวมตกแต่ง เริ่มที่ 9 แสนบาทพื้นที่ขนาดเล็กเปิดโปร่งให้กว้างใหญ่บ้านนอร์ดิก ใช้ประตูกระจกเป็นตัวรับแสงสว่างแล้วก็รับลม ทั้งปฏิบัติภารกิจเชื่อมโยงพื้นที่ที่โล่งแจ้งไปสู่พื้นที่ในบ้าน มุมนั่งพักผ่อนน้อยๆก็เลยเปลี่ยนเป็นมุมชื่นชอบได้อย่างง่ายๆ การจัดสรรพื้นที่ด้านในแบบ Open Plan มุมนั่งพักผ่อน ห้องทานอาหาร แล้วก็ครัว เชื่อมต่อกันไม่มีฝาผนังมากีดขวาง 

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง

ทำให้บ้านมองโล่งกว้างมากยิ่งกว่าเดิมโต๊ะทานอาหารอยู่ตรงกันข้ามกับมุมนั่งพักผ่อน โต๊ะไม้ธรรมชาติทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำตาลอ่อน วางคู่กับเก้าอี้พนักอิงสีขาวมองสะอาดหมดจดสบายตา เหมาะสมกับนั่งกินอาหารพร้อมหน้ากัน หน้าต่างกระจกบานใหญ่รอรับแสงสว่างธรรมชาติตลอดวัน แสงไฟก็เลยเกินกว่าพอเพียงบ้านจัดสรร

 ครัวแอบเข้าไปข้างในบ้านอีกนิด บิวท์อินเคาน์เตอร์ ตู้เก็บวัสดุอุปกรณ์สิ่งของไว้อย่างมีความเรียบร้อย มีประตูเปิดออกไปยังข้างหลังบ้าน ไม่ยุ่งยากต่อการชำระล้างแล้วก็ทิ้งขยะในบ้านข้างหลังนี้มีทั้งผอง 2 ห้องนอน 2 ห้องสุขา ห้องนอนรวมมีสุขาในตัว ส่วนห้องนอนเล็กใช้ห้องด้วยกันกับสุขาแขก การจัดแผนผังแบบเรียบง่ายแม้กระนั้นใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ทำให้บ้านข้างหลังเล็กผิดจำกัดด้วยขนาด กลับได้ฟังก์ชั่นที่ดี ที่สบายมาชดเชยบ้านนอร์ดิก

ดีไซน์บ้านชั้นเดี่ยว โปร่งสบาย สนิทสนมสนาม

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว มีระเบียง


ถ้าหากพิเคราะห์ตามลักษณะเด่น จุดอ่อน บ้านชั้นเดี่ยวยังคงนับเป็นลำดับต้นๆที่ตอบปัญหากับการใช้แรงงานของคนทุกรุ่น ทุกวัย สอดคล้องกับสภาพร่างกายตั้งแต่วัยเด็กที่ปรารถนาความปลอดภัยเป็นพิเศษ วัยผู้ใหญ่ที่อยากความลื่นไถลไหลคล่องแคล่ว และก็วัยคนวัยแก่ที่เรี่ยวแรงน้อยลง จะเดินขึ้นบันไดสูงๆก็ตรากตรำ ทั้งยังเป็นแบบบ้านที่ทุกห้องสามารถจัดฟังก์ชันให้สนิทสนมกับธรรมชาติหรือสวนนอกบ้านได้ง่าย แม้ว่าจะมีข้อเสียตรงที่อากาศข้างในจะร้อนกว่าบ้านหลายชั้น แม้กระนั้นก็สามารถปรับแต่งได้ด้วยแนวทางแล้วก็ของใหม่ต่างๆ

ได้อย่างง่ายๆเลยเหมือนกันกับบ้านข้างหลังนี้ เดิมที่ผลิตขึ้นหลายสิบปีตั้งแต่สมัยการสู้รบ เมื่อผู้ครอบครองตอนนี้ได้มาถือครองก็เลยคิดที่จะแก้ไขเปลี่ยนใหม่ ให้สอดคล้องกับทั้งยังไลฟ์สไตล์แล้วก็สิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันกับสมัยก่อน ข้อดีของบ้านเป็นการมีที่ดินข้างหลังหลงเหลืออยู่ค่อนข้างจะกว้าง และก็หันไปยังทิศเหนือที่สามารถพักได้สบายทั้งวัน ก็เลยเกิดแนวคิดที่จะเพิ่มเติมบ้านให้ยื่นออกไปข้างหลัง 

แบบบ้านโมเดิร์น เรียบง่าย

เพื่อใช้เป็นหลักที่ใช้สอยของครอบครัวตึกชั้นเดี่ยวแบ่งได้เป็น 2 ส่วนร่วมกัน ส่วนแรกเป็นบ้านข้างหลังเดิมที่เอามาปรับโฉมรวมทั้งปรับแก้ด้านในใหม่ ตัวบ้านในส่วนนี้จะยกพื้นสูงยิ่งกว่าพื้นดินน้อย ถูกใช้งานเป็นหลักที่ส่วนรวมของครอบครัว ห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ครัว รวมทั้งห้องนอนอีกทั้ง 3 ห้องส่วนที่ 2 เป็นตึกสำนักงานเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ ยื่นยาวออกมายังข้างหลังบ้าน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ทำให้บ้านมีฟอร์มเหมือนรูปตัว Lโครงการบ้าน ภูเก็ต

 ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาคราวหลัง มิได้กระทำยกพื้นเสมือนโซนข้างหลัง ความไม่เหมือนของระดับท้องถิ่นก็เลยเป็นเสมือนตัวช่วยสำหรับการจัดแบ่งแบ่งส่วนพื้นที่ให้ชัดแจ้งมากขึ้นเป้าประสงค์หลักสำหรับในการเพิ่มเติม เพื่อทำห้องสตูดิโอส่วนตัวซึ่งสามารถนั่งปฏิบัติงานได้ รองรับแขกสนิทได้ รวมทั้งเป็นห้องนันทนาการของครอบครัว ความพิเศษอยู่ที่อุปกรณ์โปร่งแสงที่ประยุกต์ใช้ทำฝาผนัง ทำให้มีการเกิดเป็นเงา บ้านนอร์ดิก

แบบบ้านโมเดิร์น เรียบง่าย

ซึ่งนอกเหนือจากที่จะทำให้บ้านมองสดใสแล้ว ยังช่วยเชื่อมโยงธรรมชาติให้เข้ามามีหน้าที่ด้านในภายเยอะขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยไม่เพียงแค่อุปกรณ์ยุคใหม่เพียงแค่นั้น ยังคงใช้งานไม้มาแซมในเล็กน้อย ดังเช่นเป็นเค้าเรื่องฝาผนังบ้านตรงรอบๆทางเดิม สันไม้ที่หันเรียงกัน กำเนิดเป็นมิติรวมทั้งรอสร้างบรรยากาศให้มีความอบอุ่นอยู่เป็นประจำเพื่อตัวบ้านสนิทสนมกับสวนหลังบ้านอย่างที่ตั้งจิตใจไว้ ก็เลยวางแบบให้มีระเบียงเล็กๆซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งวัน 

เนื่องมาจากมีหลังคาปกคลุม กันได้อีกทั้งแสงอาทิตย์รวมทั้งฝน แปลนบ้านจัดสรรปูพื้นด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มตัดกับราวกันตกไม้สีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง วางชุดโต๊ะเก้าอี้แล้วก็ม้านั่ง นั่งกินอาหารในมื้อชิลๆได้อย่างสะดวก เพราะเหตุว่าเชื่อมต่อออกมาจากครัวเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเพียงแค่นั้นมีการผสมอุปกรณ์ใหม่ๆกับสิ่งของธรรมชาติได้อย่างสมดุล ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่พิเศษ ช่วยเปิดมุมมองจากในห้องสตูดิโอให้แลเห็นทิวทัศน์อันงดงามของสนามสีเขียวตลอดระยะเวลา

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก เพื่อนๆผู้คนจำนวนมากคงจะฝันต้องการจะมี บ้าน แบบบ้านชั้นเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น ของตนสักหลักใช่มั้ยขา สำหรับผู้ที่มีเงินเก็บมากพอแล้ว ก็สามารถเลือกได้ว่าอยากได้บ้านแบบไหน สไตล์อะไร ในราคาเยอะแค่ไหน แม้กระนั้นสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดก็ใช่ว่าจะก่อสร้างบ้านมิได้นะคะ เพราะว่าหากเรื่องช่างฝีมือดี เรื่องอุปกรณ์ราคาย่อมเยา เท่านี้พวกเราทุกคนก็สามารถก่อสร้างบ้านในฝันกันได้แล้วจ้ะบ้านนอร์ดิก

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก

แบบบ้านชั้นเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น

เหมาะกับธุรกิจบ้านพัก 1 ห้องนอน 1 ส้วม งบประมาณ 250,000 บาทลักษณะส่วนประกอบข้างนอกเป็นแบบบ้านชั้นเดี่ยว มาพร้อมหลังคาเพิงหมาแหงน ตกแต่งขอบข้างล่างด้วยไม้ฝาสีอ่อน ฝาผนังข้างนอกใช้สีเทา แล้วก็แต่งขอบข้างล่างด้วยก้อนอิฐ มองดูมีมิติไม่น้อยข้างๆบ้านนอร์ดิก

มีการทำโครงเหล็กสีขาวทำเป็นที่จอดรถข้างๆของตัวบ้าน แล้วก็หน้าต่างของบ้านมีหลักษณะแคบยาว เป็นกระจกใส แต่งขอบสีขาว ช่วยสำหรับในการกระจายแสงได้อย่างดีเยี่ยมตัวบ้านเป็นทรงสี่เหลี่ยม ขนาดเล็ก ที่สามารถนำไปทำเป็นบ้านข้างหลังน้อยสำหรับธุรกิจปลดปล่อยเช่า หรือบ้านพักได้อย่างง่าย ด้วยองค์ประกอบที่สมควร 

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก

สามารถสร้างติดๆกันได้ แล้วก็เน้นย้ำการประหยัดรายจ่ายสำหรับในการก่อสร้างได้แน่ชัดเข้ามาดูแบบแปลนบ้านกันบ้าง ย้ำการออกแบบง่ายๆกระชับ จากที่หยุดรถยนต์เข้ามาในบ้านก็จะเจอหนึ่งห้องนอน หนึ่งส้วมภายใน จัดวางไว้อย่างพอดีที่สุด

บ้านข้างหลังนี้ถือว่าเป็นบ้านขนาดเล็ก ที่ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มในทุกตารางนิ้ว โดยมี 1 ห้องนอน 1 ห้องอาบน้ำ พื้นที่ใช้สอย 32.5 ตารางเมตร ใช้งบประมาณ 250,000 บาท ถ้าเพื่อนพ้องๆพอใจ สามารถนำไปปรับใช้ตามสไตล์ของตนเองกันได้เลย

บ้านไม้ทรงไทยยกสูง หลังคาเพิงหมาแหงน 

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก

บรรยากาศแบบกระต๊อบปลายท้องนา สร้างได้ในงบประมาณไม่เกิน 200,000 บาท วันนี้ ในบ้าน ได้มาพร้อมทั้ง บ้านไม้ชั้นเดี่ยวยกพื้นทรงไทย ออกแบบแบบกระต๊อบปลายดา หลังคาเพิงหมาแหงน พร้อมนอกชาน ผลงานจาก นักจัดรายการวิทยุ ยิ่งรัก ซึ่งเหมาะกับธุรกิจที่พัก แล้วก็ปลดปล่อยเช่า สร้างได้ด้วยราคาถูก ตามไปดูพร้อมเลยลักษณะบ้านไม้ชั้นเดี่ยว ยกพื้นต่ำ

คุ้มครองอุทกภัยได้พื้นฐาน ฝาผนังเป็นไม้ฝาขัดมันงาม หลังคาเพิงหมาแหงนสองชั้น พร้อมลานต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมบันไดทางขึ้นเป็นไม้ และก็ระเบียงทำเป็นที่นั่งเล่น สามารถจัดโต๊ะเล็กๆไว้สำหรับนั่งดำเนินงาน นั่งชิว ดูทิวทัศน์รอบๆของบ้านได้อย่างดีเยี่ยมการตกแต่งข้างใน เพดานแบบหลุมยกพื้นสูงบ้านนอร์ดิก

แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ราคาถูก


เพดานแต่งไม้จักรสาน งาม เข้ากันได้อย่างพอดี จัดตั้งตะเกียงซาลาเปา เพื่อเพิ่มแสงไฟ และก็ความอบอุ่นให้แก่บ้านบ้านข้างหลังนี้ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน ใช้งบประมาณสำหรับการก่อสร้างอยู่ที่ 180,000 บาท (ขึ้นกับสิ่งของแล้วก็พื้นที่ที่ก่อสร้าง) เหมาะกับกระบวนการทำธุรกิจปลดปล่อยเช่า และก็ที่พัก ถ้าหากเพื่อนฝูงๆติดอกติดใจ ทดลองดูแล้วนำไอเดียไปประยุกต์ในแบบของตนเองได้เลยโครงการบ้าน ภูเก็ต

แบบบ้านโมเดิร์นราคาย่อมเยา 1 ห้องนอน

แบบบ้านชั้นเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น

 ออกแบบขนาดเล็กเน้นย้ำความเป็นส่วนตัว งบประมาณ 259,000 บาทข้างหลังนี้เป็นหน้าต่างของบ้านข้างหลังนี้มีออกจะจำกัด เนื่องจากว่าเป็นบ้านที่ย้ำความเป็นส่วนตัว มีเพียงแค่หน้าต่างสไลด์ที่ข้างหน้าแล้วก็ข้างๆอย่างละบาน และช่องรับแสงสว่างเล็กๆเพื่อข้างในไม่ทึบจนกระทั่งเกินความจำเป็นเมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับห้องโถง ที่สามารถจัดมุมรับรองแขก/มุมนั่งพักผ่อนในรอบๆนี้ได้ พื้นข้างหลังโทนสีขาวเรียบ วิลล่าภูเก็ต

อีกทั้งในส่วนฝาผนัง พื้นกระเบื้อง รวมทั้งฝ้าเพดาน ให้โอกาสให้เจ้าของบ้านได้รังสฤษฏ์การตกแต่งตามที่ใจต้องการต่อไปข้างหลังของบ้านจะมีทางเดินแคบๆเชื่อมไปสู่ห้องนอนแล้วก็ห้องอาบน้ำด้วย ซึ่งพื้นที่หน้าห้องสุขา สามารถปรับใช้ให้เป็นมุมห้องครัวเล็กๆได้ด้วย (แต่ว่าน่าจะจะต้องมีการตำหนิดตั้งระบบดูดควัน)แบบแปลนแสนเรียบง่าย ที่ดีไซน์ให้เป็นทรงหน้าแคบข้างหลังลึก ก็เลยเหมาะกับสร้างไว้บนพื้นที่จำกัด

แบบบ้านชั้นเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น



บ้านข้างหลังนี้รวมแล้วมี 1 ห้องนอน 1 ห้องสุขา 1 ห้องอาบน้ำรับ สามารถก่อสร้างได้ในราคา 259,000 บาท (ราคาอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีผกผันตามแต่สาเหตุอื่นๆ) ซึ่งถ้าเพื่อนฝูงๆชาวเว็บไซต์พึงพอใจต้องการก่อสร้างบ้านแบบงี้ สอบถามข้อมูลอื่นๆได้จากที่มาด้านข้างล่างนี้เลยค่ะขอรับ ดีไซน์เป็นบ้านทรงเพิงหมาแหงนขนาดเล็ก ส่วนประกอบคอนกรีต ฝาผนังด้านนอกตกแต่งด้วยโทนสีเทาเรียบเสริมด้วยการตกแต่งโทนสีฟ้ารอบๆคอนกรีตเซาะร่องใต้หลังคา แทรกด้วยระแนงเหล็กรอบๆปากทางเข้าบ้านสวยๆหรูๆ

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน

villagesale.live ขอแนะนำ แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน บ้านสไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย 2 ห้องนอน 2 ห้องอาบน้ำ งบประมาณก่อสร้าง 588,000 บาทยินดีตอนรับแล้วก็สวัสดีคุณนักอ่านทุกคน กลับมาเจอกับพวกเรา แหล่งรวมแบบบ้านงามๆแล้วก็ไอเดียสำหรับก่อสร้างบ้านเพื่อคุณ ก็ขอฝากติดตามเพจแล้วก็เว็บของพวกเราไว้ด้วยครับ จะได้ไม่พลาดบ้านงามมากมายสไตล์พวกเราเอามาฝากกันเสมอๆแต่ละวัน บ้านนอร์ดิก

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน

สำหรับวันนี้พวกเรามีบ้านงามแนวโมเดิร์นสไตล์เรียบง่าย โทนสีงามเด่น ดูกันต่อเลยนะครับสำหรับลักษณะวางแบบเป็นบ้านชั้นเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น หลังคาแบบทรงเงยหลังคาลาดข้างหลังเล่นระดับสองชั้นมุงด้วยเมทัลชีท ตัวบ้านยกฐานะพื้นสูงโดยประมาณ 60 เซนติเมตร ฝาผนังด้านนอกโทนสีฟ้าแจ่มใสแซมด้วยสีเทาแล้วก็ตัดกับลายเส้นแล้วก็ขนคิ้วบัวประตูสีขาว หน้าบ้านมีระเบียงรอบๆประตูปากทางเข้าบ้านรวมทั้งปูพื้นคอนกรีตรอบกายบ้านด้วย phuket village

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน


ส่วนของข้างในบ้านห้องโถงกึ่งกลางขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานแบบหลุมทรงเลี่ยมเล่นระดับติดไฟดาวน์ไลท์และก็ประทีปเสริมแต่งงดงาม ด้านในดีไซน์แบ่งสรรพื้นที่ใช้สอยได้ครอบพร้อม มี 2 ห้องนอน 2 ส้วม 1 ครัว และก็ห้องโถงกึ่งกลางพักและก็รับรองแขก พร้อมกับระเบียง พื้นที่ใช้สอย 84 ตารางเมตร วิลล่าภูเก็ต

งบประมาณก่อสร้าง 588,000 บาท ตารางเมตรละ 7,000 บาท (จบพร้อมอยู่ใช้อุปกรณ์เกรดกึ่งกลางมาตรฐานทั่วๆไปฝาผนังก่อด้วยก้อนอิฐมวลค่อย รวมค่าของ+แรง)บ้านนอร์ดิก

แบบบ้านโมเดิร์นทรงตัวแอล (L-Shaped House)

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน

เป็นไปได้อีกทั้งบ้าน สถานที่ทำงาน และก็คาเฟ่ พื้นที่ใช้สอย 62 ตำรวจมัธยมแบบบ้านโมเดิร์น,แบบบ้านโมเดิร์น 3 ห้องนอน,แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดี่ยว,แบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดี่ยวราคาไม่แพง,แบบบ้านโมเดิร์นฟรี,แบบบ้านโมเดิร์นยกพื้นสูง,แบบบ้านโมเดิร์นชั้นครึ่ง,แบบบ้านโมเดิร์นงามๆ,แบบบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น หน้าแคบ,แบบบ้านโมเดิร์นลอฟท์,แบบบ้านโมเดิร์น ราคาไม่แพงหลักหมื่น,แบบบ้านโมเดิร์นยกพื้น,แบบบ้านโมเดิร์น งบประมาณ 1 ล้าน,แบบบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น ราคาไม่เกินล้าน,แบบบ้านโมเดิร์น 3 ห้องนอน 2 ห้องอาบน้ำ,แบบบ้านโมเดิร์นสองชั้น,แบบบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น

ลักษณะตัวบ้านชั้นเดี่ยว ทรงสี่เหลี่ยมตัวแอล หลังคาทรงสแลป ฝาข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวยืนพื้น ผสมไปกับงานไม้ ให้กลิ่นบ้านสไตล์โมเดิร์นไม่นิมอลที่สะดุดตาในเรื่องของความธรรมดาแล้วก็ความอบอุ่นได้อย่างชัดเจนผู้ออกแบบได้เลือกใช้หน้าต่างแล้วหลังจากนั้นก็ประตูกระจกขนาดใหญ่ เผยให้แลเห็นทัศนียภาพนอกบ้านได้อย่างเต็มเปี่ยม และก็ทำให้แสงไฟธรรมชาติส่องไปสู่พื้นที่ในบ้านอย่างทั่วถึง ฯลฯสายปลายเหตุให้บ้านด้านหลังเล็กๆนี้ ดูกว้างโปร่งมากขึ้น
ข้างหน้าของอาคารมีเฉไม้ที่กว้างโปร่ง เหมาะสมกับจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนพัก รับมองบรรยากาศรอบๆได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีการก่อตั้งแปลงกระถางเล็กๆไว้ข้างหน้าอาคารอีกด้วย ช่วยเพิ่มความสุขสบายให้กับบ้านสุดเรียบง่ายด้านหลังนี้บ้านสวนสวยๆ

จากภาพแบบแปลนจะเห็นได้ว่า 

แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น 2 ห้องนอน

ผู้ออกแบบได้จัดวางองค์ประกอบด้านในโดยมีเพียงแค่ห้องครัวเท่านั้น ซึ่งความมุ่งมั่นก็คือต้องการที่จะให้ลูกค้าหรือเจ้าของบ้านได้ออกแบบฟังก์ชันต่างๆตามความอยากได้นั่นเองครับผม
แบบบ้านด้านหลังนี้มีขนาดกระชับ พื้นที่ใช้สอยเพียง 62 ตารางเมตร งบประมาณก่อสร้าง 559,500 บาท หากแม้มิตรสหายๆชาวเว็บอยากได้รายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับแบบบ้านฉบับนี้ สามารถถามผู้ออกแบบโดยตรงผ่านแนวทางติดต่อข้างหลังบทความนี้ได้เลยค่ะนะครับ ^_^บ้านนอร์ดิก

ปล งบประมาณในการก่อสร้างบ้านแต่ละด้านหลังที่ไม่เหมือนกันนั้น ขึ้นอยู่กับหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นหลักที่ก่อสร้าง สมรรถนะหรือเกรดของเครื่องใช้ไม้สอย การว่าจ้างช่างฝีมือหรือผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง ฯลฯ เพราะฉะนั้น ข้อมูลของบ้านด้านหลังนี้ก็เลยมีไว้เพื่อเป็นตัวอย่างให้เล่าเรียนเท่านั้นเอง ไม่สามารถนำไปเป็นมาตรฐานสำหรับในการก่อสร้างบ้านอื่นๆที่มีสภาวะเหตุที่แตกต่างได้แปลนบ้านจัดสรร

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก

การสร้างบ้านแบบที่เราชอบเป็นความฝันของคนรุ่นใหม่หลายคน วันนี้ villagesale.live แนะนำ แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก บ้านสวยในฝัน มีเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์นอร์ดิก เว้นแต่เรื่องเส้นทรงจั่วแนวสูงแล้วเท่านั้น ยังมีการเติมเต็มการอาศัยด้วยแอบอิงความเที่ยงธรรมชาติรอบด้าน ทั้งยังเรื่องแสงไฟ เรื่องลม แล้วก็เรื่องของอุปกรณ์ที่เอามาให้ เพื่อถิ่นกำเนิดบรรยากาศที่แสนบรรเทา มีความเป็นฟาร์มนิดๆและก็มีความโก้หน่อยๆซึ่งนับเป็นอีกสไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างใหญ่โตในตอนนี้ อ่านเพิ่มเติม : maxproperty.land

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก

บ้านหลังคาผสมทรงจั่วข้างบนรวมทั้งทรงแบนข้างล่าง เป็นลักษณะของการประสมประสานกลิ่นของความนอร์ดิกให้กับสไตล์โมเดิร์นได้อย่างพอดี มองเห็นได้ว่าเส้นที่แสนเรียบง่ายมองคุ้นหน้า เมื่อมาอยู่ร่วมกันกลับสร้างมิติใหม่ รวมทั้งสร้างความสมดุลไม่ให้บ้านสูงกระทั่งเกินความจำเป็น รวมทั้งเวลาเดียวกันก็ไม่นำมาซึ่งรูปฟอร์มที่แข็งเกินความจำเป็นด้วยเช่นเดียวกัน

ข้างหน้าที่ยื่นออกมาราว 3 – 4 เมตร จัดแบ่งให้เป็นส่วนของโรงหยุดรถยนต์ในตัว หลังคาแบน เสาเหล็กห่อหุ้มไม้ เปิดฝาผนังโปร่งๆไม่ให้ตึกมองทึบตันจนกระทั่งเกินงาม ฝาผนังส่วนหนึ่งส่วนใดกรุด้วยสิ่งของไม้ตามแนวดิ่ง สีน้ำตาลโทนสว่าง ทำให้บ้านมีความสุภาพขึ้นอีกระดับหนึ่งกันโซนเพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้สึก ระหว่างโรงหยุดรถยนต์กับตัวบ้าน มีการเว้นพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆไว้สำหรับจัดสวนแคคตัส โรยพื้นด้วยหินสีขาว เลือกต้นไม้ฟอร์มงาม ทรงประหลาดตามาปลูก เสมือนสร้างปฏิมากรรมน้อยๆโดยธรรมชาติให้กับบ้าน นอกเหนือจากการที่จะรู้เรื่องแจ่มใสแล้ว สวนรูปแบบนี้ยังดูแลง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมกับผู้ที่ไม่ว่างมหาศาล

เปิดมุมมองด้านในตรงฝาผนังที่อยู่ตำแหน่งตรงกันสวนหย่อมด้วยบานกระจกใส ตีตารางเป็นกรอสี่เหลี่ยม 12 กรอบ รับแสงไฟจากด้านนอกให้ไปสู่ด้านในตลอดวัน ส่วนประตูหลักที่ใช้สำหรับเข้าบ้านอยู่ต่อจากมุมสวนไปอีกไม่กี่ก้าว เลือกให้เป็นประตูบานทึบสีดำเข้ม เพื่อล้อกับพื้นขัดมันสีเทารางๆ

อารมณ์ความมีชีวิตชีวาจากข้างนอกลื่นไหลเข้ามาข้างในด้วยการจัดคอร์ทสวนเล็กๆไว้กลางบ้าน หลังคาในส่วนนี้ก็เลยเปิดโปร่งมุงด้วยสิ่งของโปร่งแสง ให้แดดส่องลงมาหล่อเลี้ยงต้นไม้ให้เจริญงอกงามอย่างที่ตั้งหัวใจไว้ พื้นที่สี่เหลี่ยมถูกโอบล้อมด้วยกระจกใส ปิดตายในเล็กน้อย แล้วก็มีประตูไว้ออกไปดูแลรดน้ำลูกพรวนดินในนิดหน่อยด้วย

พื้นในสวนกลางบ้าน เว้นเป็นหลักดินไว้สำหรับปลูกต้นไม้

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก

เพียงนิดหน่อยแค่นั้น กึ่งกลางกระทำการปูพื้น เพื่อสามารถออกไปนั่งพักได้อย่างสะดวก เมื่อกลับเข้ามาเท้าจะไม่เปื้อนกับดิน ไม่เป็นสาเหตุของการเกิดความยุ่งยากสำหรับการชำระล้างด้านในภาย บ้านนอร์ดิก

พื้นในสวนกลางบ้าน เว้นเป็นหลักดินไว้สำหรับปลูกต้นไม้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆเพียงแค่นั้น กึ่งกลางกระทำการปูพื้น เพื่อสามารถออกไปนั่งพักได้อย่างสะดวก เมื่อกลับเข้ามาเท้าจะไม่เลอะเทอะกับดิน ไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความยุ่งยากสำหรับในการชำระล้างด้านในภายpoolvilla

ครัวสำหรับทำกับข้าว ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีขาวรวมทั้งสีน้ำตาล อยู่ตรงตำแหน่งที่แลเห็นสวนหย่อมนอกบ้านข้างโรงหยุดรถยนต์พอดิบพอดี ก็เลยทำให้ทุกมื้อของการปรุงอาหารมีความบันเทิงเยอะขึ้น ไอซ์แลนด์จัดเตรียมและก็ประกอบอาหารอยู่กึ่งกลางห้อง จัดตั้งเครื่องดูดควันไว้พร้อมสรรพ พร้อมพัดลมที่มีไว้เพื่อดูดอากาศบนฝ้าเพดาน ลดผู้กระทำระจายของกลิ่นแล้วก็ควันไปยังส่วนอื่นๆเจริญบ้านสวนสวยๆ

จุดเด่นของที่อยู่ที่อาศัย บ้านสไตล์นอร์ดิก


ท่ามกลางชีวิตคนกรุงที่วุ่นวาย พวกเรามั่นใจว่าการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนความธรรมดาย่อมเป็นสิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝัน และก็ที่อยู่ที่อาศัยสไตล์นอร์ดิกเองก็เป็นตัวเลือกซึ่งสามารถเข้ามาตอบปัญหานี้ให้กับทุกคนได้ เนื่องจากจุดเด่นของที่พักที่อาศัยสไตล์นอร์ดิกนั้นเป็นการที่ผู้อยู่จะได้การสนิทสนมธรรมชาติ 

ความไม่กังวลใจที่จะนำพาความสบายมาให้กับพวกเรานั่นเองนอกจากนั้นการจัดตั้งกับพื้นที่ใช้สอยอย่างรู้คุณค่านับเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้อย่างแจ่มแจ้งของบ้านสไตล์นอร์ดิกนี้ เพราะเหตุว่าเมื่อสมัยก่อนนั้น การผลิตบ้านของกรุ๊ปประเทศนอร์ดิกจะนิยมการผลิตบ้านในขนาดกระชับ ไม่โอ่อ่า อย่างเดี๋ยวนี้ที่ได้ปรับใช้ขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ทุกพื้นที่ใช้สอยของที่พักที่อาศัยสไตล์นอร์ดิกก็เลยแปลงเป็นการใช้แรงงานที่เกิดผลดีสูงสุดต่อผู้อาศัย

แปลนบ้านสไตล์นอร์ดิก


1.ตกแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิกบ้านสไตล์นอร์ดิก

เป็นแบบการตกแต่งบ้านของชาวตะวันตกเหนือที่มีความเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความง่ายๆ แล้วก็สำหรับการตกแต่งล้วนส่งผลให้เกิดผลดีสูงสุดต่อผู้อาศัย ซึ่งการตกแต่งสไตล์นอร์ดิกได้รับแรงผลักดันมาจากธรรมชาติรอบข้างทั้งหมด ไม่ว่าจะคือเรื่องของสี แสงสว่าง หรือแม้กระทั้งสิ่งของต่างๆและก็หนึ่งในแบบอย่างบ้านที่มีสไตล์นอร์ดิกแจ่มกระจ่างและก็งาม บ้านนอร์ดิก

2.ตกแต่งมุมนั่งพักผ่อนให้มองล้ำยุค
บ้านสไตล์ นอร์ดิก มุมนั่งพักผ่อนนับว่าเป็นส่วนที่สำคัญของบ้าน ด้วยเหตุว่าไม่ใช่แค่พวกเราที่จะใช้มุมนี้ แม้กระนั้นโน่นรวมถึงแขกที่มาเยี่ยมด้วยเหมือนกัน ด้วยเหตุนั้นการตกแต่งในทุกวันนี้จะเน้นย้ำฝาผนังโทนสีอ่อน เครื่องเรือนจากไม้ มีช่องเปิดรับแสงสว่างธรรมชาติ บันเทิงใจทั้งยังผู้อยู่รวมทั้งแขกเลยนะครับ

3.มุมทานอาหารกับโทนแสงสว่างอบอุ่น
บ้านสไตล์ นอร์ดิก โต๊ะอาหารเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่สำคัญของบ้านเช่นเดียวกัน เนื่องจากพื้นที่นี้จะเป็นจุดที่สมาชิกในครอบครัวมารวมตัวรวมทั้งใช้เวลาร่วมกันในทุกๆวัน เพราะฉะนั้นการตกแต่งจะย้ำแสงสว่างของไฟที่ให้ความอบอุ่น หรือบางครั้งอาจจะจัดมุมนี้ใกล้กับหน้าต่างที่มีแสงสว่างสาดเข้ามาก็ได้เช่นเดียวกันขอรับ

4.ส้วมแบบเรียบง่าย สบายทุกการใช้แรงงาน
ห้องสุขาสไตล์นอร์ดิกโดยมากจะตกแต่งให้ด้วยสีเอิร์ธโทนสไตล์ธรรมชาติ เน้นย้ำความง่ายๆเพื่อสบายต่อการใช้แรงงานมากยิ่งกว่า เพราะว่าการตกแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิกนั้น สิ่งที่ต้องมีให้ได้เป็นคุณประโยชน์ที่ผู้อาศัยจะได้รับนั่นเอง

5.ห้องนอนใต้หลังคา เอกลักษณ์ของบ้านสไตล์นอร์ดิก
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดสำหรับห้องนอนสไตล์นอร์ดิกเลยก็คือห้องใต้หลังคาแบบ High Ceiling ส่วนการตกแต่งยังคงเป็นการย้ำที่โทนสีเอิร์ธโทนเป็นหลักนะครับ ด้วยเหตุว่าสีขาว เทา บ้านนอร์ดิก รวมทั้งน้ำตาล เป็นสีที่เป็นหลักฐานของความยุติธรรมชาติ ด้วยเหตุดังกล่าวห้องนอนสไตล์นอร์ดิกจะมอบความสบายให้แก่ผู้อาศัยในยามหลับได้อย่างดีเยี่ยม

เป็นอย่างไรบ้างคะ ถูกอกถูกใจคุณผู้อ่านบ้างไหมคะ ทั้งภายในและภายนอกบ้านสื่อถึงความน่าอยู่และน่าหลงไหลในมุมมองของบ้านสไตล์นอร์ดิกบ้านทางเลือกใหม่ รูปทรงใหม่แปลกตาที่มองยังไงก็ไม่เก่าและสวยอยู่คงทนตลอด การตกแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิกบ้านสไตล์นอร์ดิก ก็ทันสมัย ถ้าท่านผู้อ่านชอบใจเราของเชิญติดตามที่เพจของเราเพื่อรับข่าวสารใหม่ๆด้วยนะคะ