บ้านต้นไม้
บ้านต้นไม้

บ้านต้นไม้ หลาย ๆ ประเทศที่กำลังพัฒนา มักประสบปัญหาการขยายตัวของเมืองที่กลืนธรรมชาติให้หายไป เมืองใหญ่ๆ ในเวียดนามก็กำลังสูญเสียพื้นที่สีเขียวและภูมิทัศน์เดิม ๆ กลายเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมและมลพิษทางอากาศที่รุนแรงในเขตเมือง
ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่คนรุ่นใหม่ของเวียดนามขาดการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากงานนี้สถาปนิก VTN Architects (Vo Thi Nghia Architects) จึงพัฒนาโครงการบ้าน “House for Trees” เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวภายในเขตความหนาแน่นประชากรสูง ล่าสุดในซีรีส์ Stacked Planters House มุ่งมั่นที่จะนำความเขียวกลับไปในเมืองและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้มากขึ้นครับ พูลวิลล่าจันทบุรี ติดทะเล
Planters House ให้บ้านเป็นกระถาง ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา
บ้านกับธรรมชาติยิ่งใกล้ชิดยิ่งดีต่อผู้อยู่อาศัย บ้านพื้นที่แคบ ๆ ในเมืองใครว่าจะอยู่ร่วมกับต้นไม้ไม่ได้ ในเมื่อไม่มีพื้นที่ราบเหลือด้านข้าง ก็นำต้นไม้มาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเสียเลย ตัวอย่างเช่น บ้านหลังนี้ในนครโฮจิมินห์ เป็นอาคารสูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม ออกแบบมาสำหรับครอบครัวต่างเจเนอเรชั่นสามรุ่น
สถาปนิกแยกฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่แบบส่วนตัวและส่วนรวม พื้นที่ส่วนตัวจะอยู่ในกล่องคอนกรีตที่ดูเหมือนวางซ้อนกันไปมา ระหว่างกล่องคอนกรีตจะมีช่องว่างทำระเบียงมีสวนเล็ก ๆ เจาะเพดานเปิดสู่ท้องฟ้าให้ต้นไม้เติบโตได้ พื้นที่กึ่งนอกอาคารนี้จะติดกับห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหารที่เป็นศูนย์กลางรวมสมาชิกในบ้านให้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

จากภาพการจำลองอาคารจะเห็นได้ว่า บางส่วนของอาคารสร้างครอบต้นไม้เดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วโดยที่ไม่ได้ทำการตัดทิ้ง ต้นไม้บางส่วนก็จัดพื้นที่ปลูกใหม่ในตัวบ้าน โดยเจาะช่องเพดานรับและเว้นช่วงจังหวะบางจุดของอาคารให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้สามารถเติบโตได้ เมื่ออยู่ในอาคารจะเห็นว่าบ้านมีต้นไม้อยู่ใกล้ชิดรอบ ๆ และมีพื้นที่ว่างให้บ้านได้หายใจ ต้นไม้ยังช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศ ฝุ่น ควัน ทำให้สภาพอากาศในอาคารดีขึ้น พร้อม ๆ กับให้ร่มเงากับตัวบ้านได้ด้วย
“House for Trees” ให้ความสำคัญกับการนำวัสดุในท้องถิ่นและวัสดุธรรมชาติมาใช้ สิ่งที่ทำให้โครงการนี้ดูพิเศษขึ้นนอกจากปูนเปลือย หิน ต้นไม้ แล้วยังมี “ผนังหินขัด” ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมในช่วงทศวรรษที่ 80 แต่ก็ถูกลืมไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาห้องนั่งเล่นตกแต่งเรียบง่าย เลือกใช้โทนสีดำ-เทา ขาว
ให้เกิดสมดุลทั้งวัสดุโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ วัสดุหลักเป็นคอนกรีต เพิ่มความอบอุ่นลดทอนความแข็งกระด้างของปูนเปลือยด้วยผนังไม้ในบางจุด ภาพรวมเน้นเรื่องความปลอดโปร่งโล่งสะอาดตา การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอก (Indoor-Outdoor) ด้วยการเปิดผนังบ้านได้กว้างในทุกด้าน เพื่อให้การอยู่อาศัยได้รับทั้งบรรยากาศของธรรมชาติ และช่วยเรื่องการระบายความร้อน ด้านข้างอาคารเป็นสระน้ำ ในห้องนั่งเล่นจึงรับไอเย็นของน้ำเข้าไปเพิ่มความสบายได้อีก
พื้นที่นั่งเล่นเป็นห้องกระจกติดระเบียง ชมวิวเมือง รับความสดชื่นจากต้นไม้การสร้างพื้นที่สีเขียวในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนแนวตั้ง สวนบนดาดฟ้า การปลูกพืชผักในบ้าน หรือการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านปลูกต้นไม้ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการทำให้บ้านน่าอยู่และมีชีวิตชีวามากขึ้น
เชื่อเหลือเกินว่าตอนเด็กๆ คงมีใครหลายคนฝันอยากมีบ้านอยู่บนต้นไม้ ตามเทพนิยายหรือการ์ตูนที่ได้ดู และสุดท้ายมันก็กลายเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ ด้วยความคิดที่ว่าบ้านแบบนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เดี๋ยวนี้เราสามารถสร้างบ้านบนต้นไม้ได้แบบเทพนิยายเลยทีเดียว นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียเด็ดของการอยู่อาศัย ที่น่าจะถูกใจคนพูดถึง ข้อสรุปสิ่งควรรู้ก่อนสร้างบ้านต้นไม้ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าจะมีบ้านต้นไม้สักหลังต้องทำอย่างไร เรามีวิธีดังนี้ครับ
1. เลือกต้นไม้ที่เหมาะสม
การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างแรกที่ต้องคิดถึง ควรเป็นต้นที่มีความทนทาน เติบโตเต็มที่ ไร้โรค มีรากแก้วที่แข็งแรง นอกจากนี้ต้องไม่มีขน หนาม ยาง หรือผลที่เป็นที่อยู่อาศัยของแมลง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน รวมทั้งกิ่งไม่เปราะหรือหักง่าย ไม่ควรเลือกต้นไม้ที่แก่หรืออ่อนเกินไป
และไม่ควรนำต้นไม้ที่ล้อมจากที่อื่นมาปลูกมาทำบ้านต้นไม้ด้วย เพราะรากจะยึดติดกับดินได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากเป็นไปได้ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้เข้ามาตรวจสภาพต้นไม้นั้นก่อนก็จะดีที่สุดครับต้นไม้ที่จะใช้ต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร (วัดจากตำแหน่งของลำต้นที่ต้องการจะสร้างบ้านต้นไม้) ขนาดกำลังดีของบ้านต้นไม้คือ 2.40 x 2.40 เมตร

2. ต้นไม้อะไรไม่ควรสร้างบ้านต้นไม้
สนอินเดีย ยางอินเดีย รักหลวง ต้นไม้เหล่านี้มียาง เปลือกของลำต้นก็มีพิษระคายเคืองผิวหนังคน ซึ่งหากยางเข้าตาก็อาจทำให้ตาบอดได้ นอกจากไม่ควรนำมาสร้างบ้านต้นไม้แล้ว ต้นไม้เหล่านี้ก็ไม่ควรอยู่ภายในพื้นที่ของบ้านด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน
3. บ้านต้นไม้ต้องขออนุญาตก่อสร้าง หากต้องการขอติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้า
หากต้องการขอติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้าภายในบ้านต้นไม้ การขออนุญาตก่อสร้างกับพื้นที่เขตที่สร้างเป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่หากไม่ต้องการใช้น้ำและไฟฟ้า ก็จะเป็นเหมือนบ้านหลังเล็กที่เอาไว้ใช้พักผ่อนกับธรรมชาติ จึงไม่ต้องขออนุญาต แต่สิ่งที่ควรพิจารณาเองคือบ้านต้นไม้นั้นไม่ควรกินพื้นที่ของบ้านอื่น และการสร้างนั้นไม่ได้ทำเพื่อการพาณิชย์ครับ
4. แจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบก่อน
หากบ้านต้นไม้นั้นอยู่ใกล้เขตรั้วที่ติดกับเพื่อนบ้าน สิ่งที่ควรทำก่อนการออกแบบและก่อสร้างคือการแจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบ นอกจากจะแจ้งเชิงขออนุญาตกับเพื่อนบ้านแล้ว เราควรจะแจ้งกำหนดการและระยะเวลาที่จะสร้างด้วย เป็นการเคารพและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป อันนี้ใช้ในกรณีที่ต้นไม้ที่เราจะสร้างมีพื้นที่ติดกับพื้นที่ของเพื่อนบ้านเท่านั้นนะครับ ถ้าไม่ติดก็สร้างได้เลย
5. คิดถึงโครงสร้างก่อน
สิ่งสำคัญของบ้านต้นไม้คือโครงสร้างที่แข็งแรง เมื่อเลือกต้นไม้ที่มีความแข็งแรงได้แล้ว ลำดับต่อมาคือการออกแบบโครงสร้างที่จะรับตัวบ้าน ซึ่งหลักๆมี 3 รูปแบบ คือ
– แบบแขวนจากกิ่งกานลำต้นด้านบน แบบนี้ต้องมีกิ่งก้านด้านบนที่แข็งแรง ไม่เหมาะกับบ้านต้นไม้ที่ใช้งานบ่อยและรองรับน้ำหนักมากๆ ในลักษณะนี้อาจะเลือกเป็นเฟอร์ฯที่ใช้ตกแต่งนอกสถานที่ ก็ดูเก๋ และไม่ยุ่งยากดีนะครับ
– แบบค้ำยันจากลำต้น แบบนี้แข็งแรงและมีความซับซ้อนในการก่อสร้างน้อยที่สุด สามารถเสริมตัวค้ำยันได้มากเท่าที่ต้องการ แต่ก็สร้างความเสียหายแก่ต้นไม้มากเช่นกัน
– แบบตั้งเสาขึ้นมาจากพื้น วิธีนี้จะยึดติดกับต้นไม้น้อยที่สุด เพราะมีเสาที่ตั้งขึ้นไปจากพื้นรองรับน้ำหนักแทน สุดท้ายแล้วเราจะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของต้นไม้นั้นๆว่าเหมาะสมกับโครงสร้างแบบใดที่สุด

6. ออกแบบบันไดขึ้นให้เหมาะสม
การจะขึ้นไปบนบ้านต้นไม้นั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นบันไดที่เดินขึ้นแบบปกติ หรือจะเป็นบันไดลิงที่นำมาพาดเฉพาะตอนที่มีการใช้งานก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าเป็นใคร ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงมากแค่ไหน
7. ความปลอดภัยสำคัญที่สุด
บ้านต้นไม้ต้องอยู่บนต้นไม้ในตำแหน่งที่ไม่สูงมากนัก มีราวกันตกที่แข็งแรง หากผู้ใช้งานเป็นเด็ก ความสูงจากพื้นดินจนถึงพื้นบ้านต้นไม้ไม่ควรเกิน 180 เซนติเมตร ราวกันตกรอบบ้านและบันไดสูงไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร หากเป็นไปได้พื้นด้านล่างควรโรยทราย หรือทำบ่อทราย เผื่อเวลาที่พลัดตกลงมาจะได้ไม่บาดเจ็บมาก
8. เริ่มด้วยโครงสร้างพื้น
เมื่อเริ่มสร้างบ้านต้นไม้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือพื้นของบ้าน และควรสร้างอย่างใจเย็น เพราะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของบ้าน ต้องรับน้ำหนักได้ดี แข็งแรง วัสดุพื้นอาจเป็นแผ่นไม้อัดที่ติดตั้งอยู่บนตงไม้เช่นกัน ความห่างของตงประมาณ 40 – 60 เซนติเมตร และเมื่อทำพื้นเสร็จ เราก็สามารถขึ้นไปยืนบนพื้นเพื่อก่อสร้างส่วนต่างๆของบ้านได้อย่างสะดวกอีกด้วย
9. วัสดุที่ใช้ต้องเป็นวัสดุเบา
บ้านต้นไม้ต้องการโครงสร้างและวัสดุต่างๆที่มีน้ำหนักเบาที่สุด โครงสร้างที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นโครงสร้างไม้ ผนังของตัวบ้านเป็นไม้อัดหรือแผ่นไม้สังเคราะห์ที่มีความหนาน้อยที่สุด เราอาจตัดวงกบประตูหน้าต่างทิ้ง และใช้แผ่นไม้อัดที่ติดตั้งบานพับเหมือนบานพับตู้เป็นส่วนของประตูและหน้าต่างแทน บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น
10. มีบ้านต้นไม้ต้องดูแลมากกว่าปกติ
ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแข็งแรง พื้นไม้ โครงสร้าง หรือหลังคา ควรตรวจสอบว่ามีการชำรุดเสียหายจากการไหวตัวของต้นไม้หรือไม่ รวมถึงสัตว์มีพิษต่างๆ
สำหรับบ้านต้นไม้อาจจะเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่สักหน่อยนะครับ อาจจะเป็นบ้านพักต่างอากาศในต่างจังหวัด หรือถ้าอยู่ในเมืองแต่มีพื้นที่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่านำไปลองทำ ที่นอกจากจะสร้างสีสันให้กับบ้านแล้ว คิดว่าเป็นที่พักผ่อนอีกมุมหนึ่งที่เด็กๆในบ้านจะต้องชอบแน่ๆครับ คลิ๊กที่นี่ : assetdata.land