ตลาด พระ ภูเก็ต
ตลาด พระ ภูเก็ต สถานที่แหล่งรวมของโบราณในจังหวัดภูเก็ต
ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ตลาด พระ ภูเก็ต ตั้งอยู่ในหัวมุมถนนกษัตริย์ใกล้กับถนนหนทางจังหวัดสุรินทร์ เป็นตึกสถานที่ราชการป้ายประกาศขึ้นบัญชีโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๙๓ ในตอนที่ ๓๙ ช่วงวันที่ ๑๐ พ.ค. พุทธศักราช๒๕๒๐ ซึ่งเป็นตึกที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ และก็มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม phuket property

เนื่องจากพระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ สมุหเทศาภิบาลบริเวณจังหวัดภูเก็ตมีดำริตอนวันที่ ๑ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๔๔๙ ในการพัฒนาบริเวณจังหวัดภูเก็ต แล้วก็การย้ายที่ว่าการเมืองจังหวัดภูเก็ตซึ่งอยู่ในตลาดเพื่อความงามสง่าและก็ใช้ที่ตั้งเดิมทำเหมือง มีดำริให้ไปตั้งที่เขาโต๊ะแซะเป็นนิคมเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีศูนย์กลางที่ศาลากลาง ด้วยเหตุนั้นพระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ซึ่งได้ชักชวนคนประเทศอื่นขุดแร่ดีบุกในเขตสัมปทานรอบๆทางหลวงบิดา ถนนหนทางจังหวัดพังงา ถนนหนทางจังหวัดสุรินทร์ แล้วก็ถนนหนทางสุทัศน์ เป็นใบอนุญาตแปลงข้างหน้าที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขจังหวัดภูเก็ต โดยให้ฝรั่งสร้างศาลากลางเป็นการแลกใบอนุญาตการขุดแร่ดีบุกแปลงดังกล่าวมาแล้วข้างต้น บริษัทนั้นก็ให้ช่างชาวอิตาเลี่ยนสร้าง แม้กระนั้นยังไม่ทันสร้าง พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ก็สิ้นใจ เมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๕๖ ก็เลยอาจจะมีการสร้างต่อไป แล้วก็รัชกาลที่ ๖ ได้เสด็จฯไปเปิดศาลารัฐบาล สัญญาเช่าบ้าน ในคราวเสด็จท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ ๒ ช่วงวันที่ ๒๒ ม.ย. พุทธศักราช ๒๔๖๐ phuket property
ลักษณะตึกเป็นตึกมี ๒ ชั้น ข้างบนของตึกมีนาฬิกาโบราณซึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพประทานเป็นของที่ระลึกเมื่อได้ทรงบัญชาการราชการกระทรวงมหาดไทยมาครบ ๒๐ ปี เมื่อ พุทธศักราช ๒๔๕๕ phuket property
วัดพระนางสร้าง
ตั้งที่บ้านเคียน กลุ่ม ๑ ตำบลเทกระษัตรี อำเภอถลาง โบราณสถานที่นี้ประกาศขึ้นบัญชีโบราณสถานแห่งชาติในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๐๑ ในระหว่างที่ ๒๗ ช่วงวันที่ ๑ เดือนมีนาคม พุทธศักราช๒๕๒๗ พื้นที่ ๓ ไร่ ๑ งาน ๖ ตารางวา phuket property
วัดพระนางสร้าง (วัดบ้านเคียน) หรือที่ประชาชนมักเรียกว่า วัดนางสร้างหรือทุ่งนาสร้าง ผลิตขึ้นยุคใดยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดก็แค่พินิจพิเคราะห์สถาปัตยกรรมและก็ลักษณะพุทธรูปด้านในวัดแล้ว คาดคะเนว่าสร้างในยุครัตนโกสินทร์ช่วงต้น ส่วนโบสถ์ได้รับการบูรที่แก้ไขฟื้นฟูมาหลายครา จนกระทั่ง พุทธศักราช๒๔๕๔ ถัดมาใน พุทธศักราช ๒๕๐๖ ก็เลยได้ซ่อมแซมอีกทีหนึ่ง โดยเปลี่ยนหลังคาเป็นกระเบื้องลูกที่นอนแทนหลังคาสังกะสี ภายนโบสถ์มีพุทธรูปปูนปั้นที่สำคัญอยู่ ๔ องค์ เป็นพุทธรูปปางนอนหลับ ๑ องค์ ส่วนอีก ๓ องค์ เป็นพุทธรูปปางมารวิชิตสกุลช่างเมืองถลาง ซึ่งจัดอยู่ในศิลป์รัตนโกสินทร์ รีวิวบ้านภูเก็ต
ปีงบประมาณ พุทธศักราช ๒๕๓๙ ที่ทำการโบราณคดีวิทยาและก็พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๑๒ จังหวัดภูเก็ต ได้บูรณแก้ไขฟื้นฟูอุโบสถข้างหลังเก่า สิ่งจำเป็นที่ปรากฏข้างในวัด มีอุโบสถยุครัตนโกสินทร์ตอนแรก ในพระอุโบสถมีพุทธรูปสร้างด้วยดีบุก พระเจดีย์แปดเหลี่ยมยุครัตนโกสินทร์ หอระฆังรวมทั้งหนองน้ำโบราณ รีวิวบ้านภูเก็ต
บ้านพระยาวิชิตการทำศึก
ตั้งอยู่ที่กลุ่ม ๓ ตำบลศรีเพราะ อำเภอถลาง ประกาศจดทะเบียนโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๐๒ เวลาที่ ๑๒๘ ตอนวันที่ ๑๗ เดือนกันยายน พุทธศักราช๒๕๒๘ มีพื้นที่ราว ๒๓ ไร่ ๑ งาน ๑๔ ตารางวา รีวิวบ้านภูเก็ต
ต้นเหตุของการผลิตบ้านสาเหตุจากใน พุทธศักราช ๒๔๑๙ พวกกุลีจีนทำบ่อแร่ สร้างความระส่ำระสายขึ้นที่บ้านกะทู้ มีการปะทะกันกับพวกกุลีจีนต่างเหล่า ซึ่งคือเรื่องของผลตอบแทนบ่อแร่ มีการชูพวกพ้องเข้าตีกัน ความปั่นป่วนต่างๆก็เลยเกิดขึ้น แล้วก็ตอนนั้นทางการก็เลยจะต้องเข้าปราบ ทำให้พวกที่ตีกันเลิกรากันไปตอนระยะหนึ่ง จุดเกิดเหตุที่ปะทะกันนั้นเป็นรอบๆใกล้กับบ้านเจ้าผู้ครองนครจังหวัดภูเก็ต (ทัต) เมื่อพวกกุลีคนจีนถูกทำลายล้างรวมทั้งสถานะการณ์อยู่ในความสงบเงียบแล้วเจ้าผู้ครองเมืองจังหวัดภูเก็ต (ทัต) หรือพระยาวิชิตการรบ มีความเห็นว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นถัดไป วันข้างหน้าอาจจะมีการเกิดซ้ำสองได้ ก็เลยได้มาก่อสร้างบ้านขึ้นใหม่ที่รอบๆบ้านท่าเรือ (ในที่ดินมรดกของเจ้าเจิม เจ้าผู้ครองนครถลางท่าเรือ พุทธศักราช ๒๓๕๒) ในปีเดียวกันนั้น รวมทั้งเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ใน พุทธศักราช ๒๔๒๐ พระยาวิชิตการศึก (ทัต) ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ทั้งใช้สถานที่ที่นี้เป็นสำนักงานชั่วครั้งชั่วคราวอีกด้วย รีวิวบ้านภูเก็ต
โบราณสถานนี้มีรอบๆของเขตข้างนอกสร้างเป็นแถวกำแพงก้อนอิฐล้อม กว้าง ๑๒๔ เมตร ยาว ๑๕๗ เมตร สูง ๓.๕๐ เมตร ความครึ้มของกำแพง ๖๐ ซม. ข้างบนสุดของกำแพงทำเป็นรูปใบเสมาเว้นช่องต่อตอนห่างกันโดยประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ความสูงของใบเสมา ๕๐ เซนติเมตร ตลอดแนวกำแพงข้างนอกระหว่างตรงกลางของแต่ละด้านมีตู้ยามรักษาการณ์โดยมีประตูปากทางเข้าป้อมอยู่ข้างใน ส่วนข้างในของกำแพงแต่ละมุมสร้างเป็นบ้านพักของทหารยาม คนใช้ และก็เป็นที่เก็บของ ส่วนตึกสำนักงานสร้างตรงกับแนวประตูปากทางเข้า อยู่ลึกเข้าไปราวๆ ๖๕ มัธยม สร้างเป็นตึกสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง ๑๗ มัธยม ยาว ๒๑ มัธยม ฐานอาคารสูงจากพื้นดินโดยประมาณ ๑.๕ มัธยม ตอนนี้หลงเหลืออยู่แต่ว่าฐานของตัวตึกให้มองเห็น ตรงข้างหลังของตึกห่างออกไปโดยประมาณ ๓๓ มัธยม มีสระขนาดกว้าง ๑๕ มัธยม ยาว ๒๐ มัธยม ข้างๆของสระทั้งคู่ด้านทำทางระบายน้ำล้น ไหลผ่านเข้า-ออก โดยการทำประตูที่มีไว้สำหรับระบายน้ำไว้ที่แนวกำแพง ส่วนตัวบ้านนั้นสร้างเป็นเรือนไม้ใกล้รอบๆสระ เป็นทรงของบ้านแบบเดิม คาดการณ์ว่าคงจะเป็นแบบบ้านไทยชาวมุสลิม เพราะว่าต้นตระกูลของพระยาวิชิตการศึกเป็นแขกประเทศอินเดีย เดี๋ยวนี้มองไม่เห็นซากของตัวบ้านแล้ว บ้าน
พุทธศักราช ๒๕๓๔ โดยที่ทำการโบราณคดีวิทยารวมทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๑๑ นครศรีธรรมราช ซ่อมแซมโบราณสถานบ้านพระยาวิชิตการศึก ใช้งบประมาณ ๑,๕๐๐,๐๐๐.- บาท รวมทั้งใน พุทธศักราช ๒๕๔๑ โดยที่ทำการโบราณคดีวิทยาและก็พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๑๒ จังหวัดภูเก็ต ได้ซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงอีกทีหนึ่ง ใช้งบประมาณ ๙๕๐,๐๐๐ บาท บ้าน
ที่ทำการขายประจำเมืองไทย ภาคใต้ตอนบน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)
ตั้งอยู่ที่ ๘/๑ ถนนหนทางจังหวัดระนอง อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ได้ประกาศเป็นโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๓ ง ช่วงวันที่ ๙ ก.พ. พุทธศักราช๒๕๓๙ มีพื้นที่โดยประมาณ ๒ ไร่ ๗๘ ตารางวา บ้าน
ตึกสำนักงานบริษัทการบินไทยจำกัด เจ้าของเดิมเป็นพระงามสาครเขต แก่การก่อสร้างราวๆ ๗๐ ปีมาแล้ว โดยแบ่งตึกออกเป็น ๓ ส่วน โดยส่วนแรกติดถนนหนทางจังหวัดระนอง buy villa phuket และก็ขายให้บริษัทการบินไทยเมื่อ พุทธศักราช ๒๔๙๐ ส่วนอื่นๆให้เช่าทำเป็นสถานศึกษาแล้วก็โรงหมอ ถัดมาบริษัทการบินไทยได้โยกย้ายมาอยู่รวมกับบริษัทการบินไทย บ้าน
อาคารสำนักงานที่ดิน
ตั้งอยู่ที่ถนนหนทางดำรง ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง ประกาศจดทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วๆไป เล่มที่ ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๕๐ ง ตอนวันที่ ๑๘ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๙ บ้านจัดสรรภูเก็ต
พื้นที่โบราณสถาน เป็นหลักที่ตึกโดยประมาณ ๑ งาน ๗๔.๖๖ ตารางวา และก็พื้นที่รอบๆบันได ราว ๕๖.๒๕ ตารางวา บ้านจัดสรรภูเก็ต
อาคารสำนักงานที่ดิน ผลิตขึ้นเมื่อ พุทธศักราช ๒๔๕๙ ถัดมา พุทธศักราช ๒๔๗๖ – ๒๔๙๕ ทางการได้ใช้เป็นที่ว่าการอำเภอทุ่งค้าง (อำเภอเมืองปัจจุบันนี้) ระหว่างนั้นได้มีการต่อตึกไม้ สร้างเป็นห้องเพิ่มเติมข้างละห้อง ตอนนี้ใช้เป็นอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัด บ้านจัดสรรภูเก็ต
ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ข้างหลังเก่า)
ตั้งอยู่ที่ถนนหนทางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง บ้านจัดสรรภูเก็ต
จากบันทึกเหตุการณ์เที่ยวหัวเมืองภาคใต้รัชกาลที่ ๖ เมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ได้ทรงพระราชนิพนธ์ถึงกรุ๊ปตึกทางการและก็ที่ทำการโทรเลข ความว่า
… ที่นี้เดิมเป็นที่อยู่ของพระรักษา (นุด) ซึ่งออกมาเป็นข้าราชบริพารควบคุมราชการเมืองจังหวัดภูเก็ต เรือนเป็นอาคารสามชั้นอยู่ข้างจะกว้างใหญ่ มีเนศาลายาวๆชั้นเดี่ยวอีกข้างหลังหนึ่ง สำนักงานราชโลหกิจไปตั้งอยู่ในอาคารเล็กที่อยู่เดิมของลูกพระยาวิชิตการศึก สำนักงานของรัฐบาลแยกย้ายราดกระจัดกระจายอยู่เป็นหลายข้างหลังร่วมกัน แม้กระนั้นอยู่ในร่วมกำแพงอันเดียวกันทั้งหมด คุกก็อยู่ชิดกับตรงนี้แต่ว่ามีกำแพงกันต่างหาก เรือนที่ขังผู้ต้องขังเป็นอาคารใหญ่โถงไม่มีหน้าต่าง มีแต่ว่าช่องลูกฟักอยู่รอมรอด รู้เรื่องว่าเดิมคงจะใช้เป็นคลังเก็บของเก็บข้าวของพระยาวิชิตการสู้รบ ที่ทำงานของรัฐบาลนี้ได้รู้ว่ามีผู้ขอกระทำขุดแร่ดีบุก เจ้ารัษฎากำลังคิดจะย้ายศาลารัฐบาลและก็สถานที่ต่างๆไปตั้งที่อื่นๆ แต่ว่าดูเหมือนจะลงลายลักษณ์อักษรยังไม่ตกลงกัน…
ลักษณะเป็นตึกชั้นเดี่ยวคอนกรีตเสริมเหล็กลงสีขาว ข้างหน้าเป็นบันไดทางขึ้น ๕ ขั้น เสาเป็นสี่เหลี่ยมเซาะร่องห่างๆซี่ลูกกรงปูนเรียบยาว มีหน้าต่างแบบเปิดบานคู่ เหนือบานเปิดเป็นช่องแสงสว่างไม้ตารางสี่เหลี่ยมกระจกใส มีหลังคาทรงปั้นหยา
ประกาศขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วๆไป เล่มที่ ๑๑๖ ตอนพิเศษ ๗ ง ช่วงวันที่ ๒๒ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๒ มีพื้นที่โบราณสถาน ๑ ไร่ ๙๗ ตารางวา
ตึกพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง
มีตึกสารพัดประโยชน์เน้นย้ำรูปแบบของตึกไทยภาคใต้เฉพาะถิ่น ที่เป็นเรือนไม้มีหลังคา ๓ ด้าน โดยมีด้านสกัดเป็นรูปจั่วยกพื้นสูง เสาเหลี่ยมหรือกลมหลังคามุงจาก โครงหลังคาเป็นเรือนเบาะเหมือนภาคกึ่งกลาง ปากทางเข้าใหญ่อยู่ตรงด้านสกัดสามเหลี่ยมหน้าจั่วของตึก ฝาผนังเป็นไม้แผ่นแผ่นมีสลักถอดได้ วิลล่าภูเก็ตมีหน้าต่างขนาดเล็ก พื้นเป็นไม้แผ่นหรือไผ่ตี โครงเสาเป็นไผ่ ฝากั้นห้องเป็นไผ่ฝาขัดแตะ ยอดจั่วมักเป็นไผ่สานลายขัดปิดยอดจั่ว
การออกแบบตัวตึกพิพิธภัณฑสถาน ก็เลยปรับเปลี่ยนต้นแบบตึกดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว มาเป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก โครงหลังคาเหล็กเอาอย่างหลังคาเรือนเครื่องผูก ตัวตึกมีลักษณะบ้านท้องถิ่น แต่ว่านำอุปกรณ์ยุคใหม่มาปรับใช้สำหรับเพื่อการก่อสร้างเพื่อความคงทนถาวร ก็เลยเป็นตึกที่มีคุณค่าในด้านของการรักษาแบบบ้านโบราณซึ่งจากการคัดสรรผลงานสถาปัตยกรรมดีเด่นของสโมสรนักออกแบบไทยพระบรมราชูปถัมภ์ในนิทรรศการ นักออกแบบ ๓๐ ตึกพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง ได้รับรางวัลวางแบบสถาปัตยกรรมดีเด่น จำพวกตึกที่ผลักดันศิลป์แล้วก็วัฒนธรรม ชื่อรางวัล Gold Medal ซึ่งได้ผลงานของนายอุดม สกุลพานิชย์ ช่วงวันที่ ๑๓ ม.ย. พุทธศักราช ๒๕๓๐
บทความอื่นที่น่าสนใจ : บ้านสีเขียวมะนาว สี ผ้าปูที่นอน
อ่านบทความเพิ่มเติ่ม : ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต invest in phuket property phuket villa for sale phuket village village phuket รีวิวบ้าน ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน วิลล่าราคาถูกภูเก็ต วิลล่าภูเก็ตที่ขาย